นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กเสร็จสิ้นการเข้าร่วมการประชุม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ที่ประเทศจีน
(VOVWORLD) - นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงียนซวนฟุ๊กได้เดินทางกลับประเทศหลังจากเสร็จสิ้นการเข้าร่วมการประชุม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนในระหว่างวันที่ 25-27 เมษายน
ในกรอบของการเข้าร่วมการประชุม นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุ๊กได้เข้าเยี่ยมคารวะเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง เจรจากับนายกรัฐมนตรีจีน หลีเค่อเฉียง และพบปะหารือกับนาย หวางหู้หนิง สมาชิกกรมการเมืองพรรค สมาชิกคณะเลขาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ให้การต้อนรับสถานประกอบการชั้นนำของจีน เยือนสถานทูตเวียดนามประจำประเทศจีนและพบปะทวิภาคีกับผู้นำประเทศต่างๆที่เข้าร่วมการประชุม
ในการกล่าวปราศรัยในการประชุม นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้แสดงความประสงค์ว่า จะขยายความร่วมมือที่ดีงามกับจีนและประเทศต่างๆเพื่อส่งเสริมกลไกความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพและเอื้อประโยชน์ให้แก่กัน โดยนาย เลหว่ายจุง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ที่เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย ได้อ้างบทปราศรัยของนายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กว่า“ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้ระบุอย่างชัดเจนว่า พลังภายในประเทศเป็นปัจจัยชี้ขาดแต่พลังจากภายนอกก็มีความสำคัญเป็นเป็นอย่างมาก ดังนั้น เวียดนามจึงให้ความสำคัญถึงความเชื่อมโยงและให้ความสำคัญถึงการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกเพื่อพัฒนาและมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาของโลก เวียดนามชื่นชมหลักการของที่ประชุมระดับสูง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ครั้งแรก นั่นคือ ความโปร่งใสและความยุติธรรมของทุกฝ่ายที่อาศัยหลักการของตลาดและเอื้อประโยชน์ให้แก่ทุกฝ่าย”
สิ่งที่สำคัญในการเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุ๊กคือ ขยายความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับจีนในทุกด้าน โดยเฉพาะการค้าและการลงทุน รัฐมนตรีช่วย เลหว่ายจุงย้ำว่า “โอกาสนี้ ทั้งสองประเทศได้ลงนามเอกสารร่วมมือทางเศรษฐกิจ 5 ฉบับ โดยเฉพาะเอกสารร่วมมือ 2 ฉบับ ที่เปิดโอกาสให้เวียดนามสามารถส่งออกนมและผลิตภัณฑ์จากนมไปยังประเทศจีน ส่วนฝ่ายจีนก็เสนอว่า จะพิจารณาการอำนวยความสะดวกให้แก่สินค้าเกษตรเวียดนามอีกหลายรายการ นอกรอบการพบปะระหว่างนายกรัฐมนตรีเวียดนามกับตัวแทนของสถานประกอบการชั้นนำของจีนกว่า 20 แห่ง ผู้นำกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการพบปะกับผู้นำกระทรวงและสถานประกอบการจีนเพื่อส่งเสริมการค้าทวิภาคี จีนเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 และเป็นหุ้นส่วนการค้าชั้นนำของเวียดนาม ดังนั้น การหารือเหล่านี้คือพื้นฐานในการสร้างกรอบทางกฎหมายและนโยบายเพื่อผลักดันการค้าระหว่างสองฝ่าย”
สำหรับปัญหาทางทะเล นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เสนอให้ปฏิบัติความเข้าใจระหว่างผู้นำระดับสูงของสองพรรคและสองรัฐ “ข้อตกลงเกี่ยวกับหลักการขั้นพื้นฐานในการชี้นำการแก้ไขปัญหาทางทะเล” ปฏิบัติแถลงการณ์ดีโอซีอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ เข้าร่วมอย่างเข้มแข็งในการเจรจาเกี่ยวกับการจัดทำซีโอซี ส่วนบรรดาผู้นำประเทศจีนได้ยืนยันว่า จะพยายามร่วมมือกับเวียดนามเพื่อแก้ไขความขัดแย้ง ธำรงสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลตะวันออก.