พิธีเชิญธงอาเซียนเพื่อรำลึกครบรอบ 52 ปีวันก่อตั้งองค์การอาเซียน

ในการกล่าวปราศรัยในพิธี รัฐมนตรีช่วย เหงียนก๊วกหยุงได้สรุปผลสำเร็จของอาเซียนในตลอด 52 ปีที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า อาเซียนนับวันสามารถยกระดับสถานะและบทบาทบนเวทีโลก พร้อมทั้งย้ำถึงบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน อาเซียนกำลังย่างเข้าสู่ปี 2020 ซึ่งเป็นครึ่งทางในการปฏิบัติวิสัยทัศน์อาเซียน 2025 และเป็นปีที่เวียดนามจะดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนอาเซียน ในตลอด 24 ปีนับตั้งแต่ที่เข้าเป็นสมาชิกของอาเซียนเมื่อปี 1995 เวียดนามได้เข้าร่วมอย่างเข้มแข็ง เป็นฝ่ายรุก มีความรับผิดชอบและมีส่วนร่วมเป็นอย่างมากต่อกระบวนการความร่วมมือและสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน            “เวียดนนามจะร่วมมือกับประเทศสมาชิกในการสานต่อผลสำเร็จที่ได้บรรลุ ผลักดันการสนทนาและความร่วมมือต่อไป พยายามมีส่วนร่วมเสริมสร้างและรักษาบรรยากาศที่สันติภาพ มีเสถียรภาพและอำนวยความสะดวกให้แก่การสร้างสรรค์และพัฒนา เปิดโอกาสให้แก่การประกอบธุรกิจ การลงทุนและมีส่วนร่วมเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่และสุขภาพของชุมชน ผลักดันการรักษาสวัสดิภาพและสวัสดิการสังคม ผลักดันเอกลักษณ์ร่วมของอาเซียน เชื่อมโยงประชาชนในประเทศต่างๆและเผยแพร่คุณค่าอาเซียนนอกภูมิภาค”

รัฐมนตรีช่วย เหงียนก๊วกหยุงยังแสดงความประสงค์ว่า ในเวลาข้างหน้า โดยเฉพาะในปี 2020 เมื่อดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนอาเซียน เวียดนามจะได้รับการสนับสนุนจากบรรดาประเทศสมาชิก ประเทศหุ้นส่วนและเพื่อนๆในภูมิภาคและโลก

ในเช้าวันเดียวกัน ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโก วิโดโด รัฐมนตรีต่างประเทศของบรรดาประเทศอาเซียน หัวหน้าคณะทูตานุทูตของประเทศอาเซียนและหุ้นส่วนได้เข้าร่วมพิธีเชิญธงอาเซียนและพิธีเปิดตัวสำนักงานใหม่ของคณะเลขาธิการอาเซียน โดยนาย ฝ่ามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เข้าร่วมพิธีดังกล่าว

โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ไมค์ ปอมเปโอได้ส่งจดหมายอวยพรองค์การอาเซียน โดยระบุว่า ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสหรัฐกับอาเซียนได้มีส่วนร่วมต่อวิสัยทัศน์ของทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับมหาสมุทรอินเดีย – แปซิฟิกที่อาศัยกฎระเบียบ ความเปิดเผยและครอบคลุม นาย ไมค์ ปอมเปโอ ได้ย้ำว่า สหรัฐจะร่วมมือกับอาเซียนเพื่อผลักดันคุณค่า ผลประโยชน์และนโยบายเพื่อช่วยให้ภูมิภาคนี้มีการขยายตัว มีความเจริญรุ่งเรืองและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างชาวอเมริกันกับประชาชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออก.