เอกอัครราชทูตห่ากิมหงอก (VNA)

ในการนี้ นาย Marchick ได้ย้ำว่า DFC อยากมีบทบาทมากขึ้นในการพัฒนาภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยจะเน้นการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การพัฒนาอย่างยั่งยืน การลงทุนในโครงการพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและช่วยเหลือภูมิภาคนี้ในการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผ่านการเสริมสร้างศักยภาพของระบบสาธารณสุขและการจัดสรรค์วัคซีน นอกจากนี้ DFC จะสนับสนุนสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมในด้านการเกษตรและการศึกษา พร้อมทั้งกระชับความร่วมมือกับหุ้นส่วนต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี ออสเตรเลียและใต้หวัน ประเทศจีนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโครงการลงทุนและเผยว่า DFC และเวียดนามมีศักยภาพความร่วมมือที่สูงมาก

ส่วนเอกอัครราชทูตห่ากิมหงอกได้เสนอให้รัฐบาลสหรัฐช่วยเหลือประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงในการพัฒนาระบบห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน เสริมสร้างศักยภาพด้านการค้าดิจิทัลและขยายการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพสูง เช่น โครงการก่อสร้างสนามบินลองแถ่ง ถนนไฮเวย์เหนือจรดใต้ การพัฒนาพลังงานทางเลือกและก๊าซธรรมชาติเหลว อีกทั้งช่วยเหลือประเทศสมาชิกอาเซียนในการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 ส่งเสริมการลงทุนระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนและกรอบความร่วมมือระหว่างสหรัฐกับอาเซียน.