ท่านNguyễn Phú Trọngเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามแลกเปลี่ยนข้อราชการกับเจ้าหน้าที่บริหารนครโอจิมินห์(Photo:Internet)

(VOVWorld) – ในกรอบการเยือนจังหวัดต่างๆทางภาคใต้เวียดนาม วันที่๒๙มีนาคม ท่านNguyễn Phú Trọng เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ลงพื้นที่นครโฮจิมินห์เพื่อตรวจตราการปฏิบัติมติสมัชชาพรรคสมัยที่๑๑ และมติการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่๔ สมัยที่๑๑เกี่ยวกับปัญหาที่เร่งด่วนในการสร้างสรรค์พรรคปัจจุบัน ในการนี้ ท่านNguyễn Phú Trọngได้กำชับให้นครติดตามมติฉบับต่างๆของพรรค ปรับปรุงรูปแบบการขยายตัวและโครงสร้างเศรษฐกิจต่อไปในกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก ยกระดับคุณภาพเพื่อพัฒนาอย่างยั่งยืน ปฏิบัติก้าวกระโดด๓ประการในการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยม ฝึกอบรมบุคลากร และก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาเป็นนครแห่งอุตสาหกรรมที่ทันสมัยอย่างรวดเร็วที่สุดของประเทศ ท่านNguyễn Phú Trọng กล่าวว่า“ต้องเกาะติดมติของสมัชชาพรรค ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจสังคม มติ๑๖ที่กรมการเมืองได้ประกาศใช้ มีแนวทางที่ชัดเจนแล้วคือจากนี้ถึงปี๒๐๒๐ ต้องแปรแนวทางนี้ให้เป็นรูปธรรมเพื่อให้มีมาตรการที่มีความเป็นไปได้สูงในการปฏิบัติ ชี้นำการปฏิบัติเป้าหมายอย่างเร่งด่วนเพื่อบรรลุเป้าหมายก่อนจังหวัดอื่นๆ พัฒนากลายเป็นนครแห่งอุตสาหกรรมที่ทันสมัย และนครแห่งสังคมนิยม”    เกี่ยวกับการสร้างสรรค์พรรค ท่านNguyễn Phú Trọngชี้ชัดว่า การปฏิบัติมติการประชุมคณะกรรมการกลางพรรค ครั้งที่๔ เพื่อส่งเสริมเจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคให้ปฏิบัติยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจสังคมและสร้างพลังการต่อสู้ใหม่ในพรรค พรรคสาขานครโฮจิมินห์ต้องยืนหยัดสร้างสรรค์พรรคอย่างมั่นคง ไม่ปล่อยปละละเลย ยิ่งอยู่ระดับล่างยิ่งต้องยืนหยัดสร้างสรรค์พรรค เพราะผลที่ได้ประสบมาเป็นผลเบื้องต้น และควรปฏิบัติกลุ่มมาตรการที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ        บ่ายวันเดียวกัน ท่านNguyễn Phú Trọng ได้ลงพื้นที่เขต๘ ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของนครโฮจิมินห์ที่กำลังอยู่ในกระบวนการพัฒนาเป็นตัวเมืองโดยมีโครงการใหญ่ๆที่กำลังได้รับการปฏิบัติ ท่านNguyễn Phú Trọng ได้ชื่นชมสถานะและบทบาทสำคัญของเขตในระบบทางการตัวเมือง ชื่นชมการใช้เจ้าหน้าที่อย่างถูกต้องและเหมาะสมซึ่งมีส่วนร่วมผลักดันขบวนการต่างๆ และแสดงความหวังว่า เขต๘จะส่งเสริมพลังเข้มแข็งของความสามัคคี ส่งเสริมบทบาทนำหน้า และเป็นตัวอย่างของเจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคเพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและพรรคพัฒนาอย่างเข้มแข็งมั่นคง  ./.