เวียดนามจะเป็นฝ่ายรุกในผสมผสานเข้ากับกลุ่มเอเปค

(VOVworld) – ผลสำเร็จจาการประชุมครั้งนี้ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้แก่ความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกเอเปคเท่านั้นหากยังเป็นการย้ำถึงส่วนร่วมของเวียดนามต่อที่ประชุมอีกด้วย
เวียดนามจะเป็นฝ่ายรุกในผสมผสานเข้ากับกลุ่มเอเปค - ảnh 1
ท่านเจืองเติ๊นซางกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น (Photo Internet)

(VOVworld) – ค่ำวันที่ 8 ตุลาคม ท่านเจืองเติ๊นซาง ประธานประเทศได้นำคณะผู้แทนเวียดนามเดินทางออกจากเกาะบาหลี เสร็จสิ้นการเข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปคครั้งที่ 21 ณ ประเทศอินโดนีเซียในระหว่างวันที่ 7-8 ตุลาคม ซึ่งผลสำเร็จจาการประชุมครั้งนี้ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้แก่ความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกเอเปคเท่านั้นหากยังเป็นการย้ำถึงส่วนร่วมของเวียดนามต่อที่ประชุมอีกด้วย โดยเฉพาะคือบทปราศรัยของท่านเจืองเติ๊นซางในการประชุมรอบแรกภายใต้หัวข้อ “ บทบาทของเอเปคในการปรับปรุงการค้าพหุภาคีในสถานการณ์เศรษฐกิจโลกปัจจุบัน” พร้อมทั้งมีข้อเสนอเพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้แก่ความเชื่อมโยงเศรษฐกิจ เน้นการปฏิบัติเป้าหมายโบโกร์โดยเฉพาะต้องปฏิบัติอย่างเข้มแข็งและแสดงออกถึงความคล่องตัวเพื่อให้การประชุมรัฐมนตรีขององค์การการค้าโลกหรือ WTO ที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ประสบผลที่เป็นรูปธรรม เวียดนามยังเสนอให้นำปัญหาความร่วมมือเพื่อรักษาความมั่นคงด้านอาหาร แหล่งน้ำ การรับมือกับภาวะฉุกเฉินและการกู้ภัยทางทะเลระบุเข้าในโครงการร่วมมือของที่ประชุม ตลอดจนเสนอให้เอเปคให้การช่วยเหลือเป้าหมายการสร้างสรรค์ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2015 และประสานงานในการปฏิบัติโครงการต่างๆของอาเซียนเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน ความเชื่อมโยงในการจัดสรรค์สินค้าและโครงการของเขตอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงเกี่ยวกับความเชื่อมโยงและการลดช่องว่างของการพัฒนา  แต่สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดในการเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ของท่านเจืองเติ๊นซางคือการที่เวียดนามประกาศเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเอเปคครั้งที่ 25 และกิจกรรมที่สำคัญๆของฟอรั่มในปี 2017
ท่านเจืองเติ๊นซางได้ระบุว่า
 “ การที่เวียดนามจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเอเปคครั้งที่ 25 แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจอันแน่วแน่ของเวียดนามในการปฏิบัติตามมติของการประชุมครั้งที่ 11 ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามว่าจะเป็นฝ่ายรุกและกระตือรือร้นในการผสมผสานเข้ากับโลกแสดงออกถึงวิสัยทัศน์ในระยะยาวของเวียดนามเกี่ยวกับเอเชีย – แปซิฟิกและความปรารถนาที่จะมีส่วนร่วมอย่างมีความรับผิดชอบต่อปัญหาทั่วไปในภูมิภาค”   ตามความคิดเห็นของท่านเจืองเติ๊นซาง การเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งและการมีส่วนร่วมอย่างมีความรับผิดชอบต่อประชาคมอาเซียน ฟอรั่มเอเปคและในกรอบความร่วมมือต่างๆในภูมิภาคจะช่วยเวียดนามรักษาบรรยากาศที่สันติภาพ เสถียรภาพและแสวงหาความช่วยเหลือจากต่างประเทศเพื่อการพัฒนาของประเทศ กระบวนการผสมผสานจะเอื้อประโยชน์ต่อท้องถิ่น สถานประกอบการและประชาชนเวียดนาม “ ในฐานะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเอเปค 2017 เวียดนามจะใช้โอกาสดังกล่าวประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ประเทศเวียดนามที่เปลี่ยนแปลงใหม่ คล่องตัวและมีศัยกภาพในการพัฒนา พร้อมทั้งกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชนเวียดนามกับเพื่อนมิตรชาวต่างชาติ และเป็นโอกาสให้หุ้นส่วน สถานประกอบการและองค์การระดับภูมิภาคและโลกมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่กล้าหาญ วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และอาหารพื้นเมืองของเวียดนาม”

การประชุมเอเปค 2013 ยังเปิดโอกาสให้แก่ความร่วมมือทวิภาคีระหว่างเวียดนามกับหุ้นส่วนต่างๆ โดยในการพบปะทวิภาคีกับผู้นำประเทศสมาชิกเอเปค เช่น ประธานาธิบดีประเทศเจ้าภาพอินโดนีเซีย กษัตริย์แห่งบรูไน ประธานประเทศจิน ประธานาธิบดีรัสเซีย หัวหน้าคณะผู้แทนสหรัฐ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ท่านเจืองเติ๊นซางได้มีความเห็นพ้องเกี่ยวกับมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อส่งเสริมความร่วมมือ ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์ในทุกด้านให้พัฒนายิ่งขึ้น
ก่อนกลับประเทศท่านเจืองเติ๊นซางได้เข้าร่วมการประชุมที่เกี่ยวข้องสองรอบภายใต้หัวข้อ “ วิสัยทัศน์เอเปคเกี่ยวกับการเชื่อมโยงในโครงสร้างระหว่างประเทศและภูมิภาคที่กำลังก่อตัวขึ้น” และ “การขยายตัวอย่างยั่งยืนด้วยความเท่าเทียม ความมั่นคงด้านอาหาร แหล่งน้ำและพลังงาน”  ซึ่งท่านเจืองเติ๊นซางได้กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม โดยย้ำว่า เวียดนามสนับสนุนการอนุมัติและการปฏิบัติ “โครงการเชื่อมโยงเอเปค” โดยเร็วโดยเน้นในด้านที่สำคัญๆ เช่น ความเชื่อมโยงในการลงทุนและอุปถัมภ์โครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน คมนาคมขนส่ง เทคโนโลยีการสื่อสาร การศึกษา การท่องเที่ยวและการรับมือกับภาวะฉุกเฉิน เป็นต้น  เกี่ยวกับการขยายตัวอย่างยั่งยืนด้วยความเท่าเทียม ท่านเจืองเติ๊นซางได้เสนอให้มีแนวคิดและการเข้าถึงใหม่เกี่ยวกับความมั่นคงด้านอาหาร แหล่งน้ำและพลังงานบนพื้นฐานของวิสัยทัศน์ระยะยาวที่มีความหลากหลาย มีการเปลี่ยนแปลงใหม่และมีความคิดสร้างสรรค์ พร้อมทั้งเน้นความร่วมมือภายใต้ระเบียบการของเอเปค 
หลังจากที่เสร็จสิ้นการประชุมเอเปค 21 ท่านเจืองเติ๊นซางได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดของผู้นำ 12 ประเทศสมาชิกข้อตกลงหุ้นส่วนภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพี โดยผู้นำประเทศทุกท่านได้อนุมัติ “แถลงการณ์ของผู้นำประเทศสมาชิกทีพีพี”และ“รายงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ประเทศสมาชิกทีพีพี” พร้อมทั้งเห็นพ้องกันว่าจะแก้ไขปัญหาที่เหลือเพื่อเสร็จสิ้นการเจรจาภายในปี 2013นี้ ท่านเจืองเติ๊นซางได้กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมโดยเสนอให้มีการเข้าถึงอย่างเป็นรูปธรรม คล่องตัวและคำนึงถึงความแตกต่างกันในการพัฒนาของประเทศสมาชิก ให้ความสนใจต่อการช่วยเหลือทางเทคนิกและยกระดับทักษะความสามารถในการปฏิบัติคำมั่นเพื่อให้โอกาสและศักยภาพของความเชื่อมโยงดังกล่าวกลายเป็นรูปธรรม./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด