(VOVWORLD) -ชาเตินเกืองเป็นผลิตภัณฑ์พื้นเมืองและเครื่องหมายการค้าที่มีชื่อเสียงของจังหวัดท้ายเงวียน ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากการมีไร่ชาที่กว้างใหญ่ ทำให้เขตปลูกชาเตินเกืองเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก
ครอบครัวต่างๆในเขตเตินเกืองและเจ้าของโรงงานผลิตชาได้พัฒนาการบริการที่พักเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน ลองเก็บใบชาและผลิตชา (Photo : toquoc.vn) |
ตำบลเตินเกืองมีครอบครัวเกือบ 1,600 ครอบครัว ซึ่งร้อยละ 90 ประกอบอาชีพเกษตร จากการกำหนดให้การปลูกชาเป็นจุดแข็งด้านเศรษฐกิจของตำบลฯ นำผลประโยชน์และสร้างรายได้สูงให้แก่ประชาชน ดังนั้น ทางการตำบลฯจึงได้พยายามส่งเสริมให้เกษตรกรปฏิบัติรูปแบบเศรษฐกิจต่างๆ ประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการปลูก การเก็บและการแปรรูปใบชาผสานกับการบริการการท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ ซึ่งช่วยพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ทั้งทางวัตถุและจิตใจของประชาชน
จากการปฏิบัติแนวทางสร้างเครื่องหมายการค้าชาผสานกับการพัฒนาการท่องเที่ยว ครอบครัวต่างๆในเขตเตินเกืองและเจ้าของโรงงานผลิตชาได้สร้างสรรค์บรรยากาศแห่งวัฒนธรรมการดื่มชาและพัฒนาการบริการที่พักเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน ลองเก็บใบชาและผลิตชา ชา หาวดาด (Hao Dat) เป็นเครื่องหมายการค้าที่มีชื่อเสียงในจังหวัดท้ายเงวียนและไร่ชาที่นี่ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวจะมีโอกาสเยือนโรงงานผลิตชา ชมความสวยงามของไร่ชาและดื่มชา นาง ด่าวแทงหาว ผู้อำนวยการบริษัทผลิตชาหาวดาดได้เผยว่า ปัจจุบัน ทางบริษัทฯกำลังพัฒนาการเกษตรปลอดสารพิษผสานกับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว
“พวกเราเห็นถึงศักยภาพการพัฒนาเมื่อมีผลิตภัณฑ์ OCOP ระดับ4 ดาว ในปี 2021 พวกเราอยากมีผลิตภัณฑ์ 5 ดาวเพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์เพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในผลิตภัณฑ์ของเรา”
เมื่อปี 2007 ได้มีการจัดตั้งสมาคมชาท้ายเงวียน ซึ่งเป็นสถานประกอบการ 40 แห่ง สหกรณ์ 52 แห่ง สโมสร 4 แห่ง สมาคมผู้ประกอบอาชีพ 1 แห่งและครอบครัวเกษตกรที่ผลิตและประกอบธุรกิจชา 9 แห่งเข้าร่วม บริษัทหุ้นส่วนชาห่าท้าย ตำบลลาบั่ง อำเภอด่ายตื่อ จังหวัดท้ายเงวียนมีพื้นที่ปลูกชากว่า 300 เฮกตาร์ โดยเป็นพื้นที่ปลูกชาอินทรีย์ 40 เฮกตาร์ แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด –19แต่เนื่องจากผลิตภัณฑ์ชาของสถานประกอบการได้รับการรับรองเป็นผลิตภัณฑ์ OCOP จึงคาดว่า ปริมาณการส่งออกชาของบริษัทปีนี้อาจอยู่ที่ 100 ตัน นาง เหงวียนถิเหี่ยน ประธานสภาบริหารของบริษัทหุ้นส่วนชาห่าท้ายได้เผยว่า
“การสร้างเครื่องหมายการค้าว่ายากแล้วแต่การรักษาส่วนแบ่งในตลาดกลับเป็นเรื่องที่ยากกว่ามาก เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐาน ผู้ผลิตต้องเอาใจใส่ในการปลูก การดูแลและแปรรูปชา โดยเฉพาะ ต้องผลิตผลิตภัณฑ์อินทรีย์เพื่อสุขภาพของประชาชน”
บรรยากาศแห่งวัฒนธรรมการดื่มชา |
จังหวัดท้ายเงวียนมีพื้นที่ปลูกชา 1 หมื่น 9 พันเฮกตาร์ สามารถผลิตชาได้เกือบ 2 แสนตันต่อปี โดยได้รับการจำหน่ายในตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ การสร้างเครื่องหมายการค้า OCOP ผสานกับการท่องเที่ยวในจังหวัดท้ายเหงวียนได้สร้างโอกาสให้แก่ประชาชนในการเพิ่มรายได้ มีส่วนช่วยแก้ปัญหาความยากจนและประสบความสำเร็จในการปฏิบัติโครงการสร้างสรรค์ชนบทใหม่
ถ้ามีโอกาสมาเยือนจังหวัดท้ายเงวียน นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดไปเยือนไร่ชา ลองเก็บใบชาและดื่มชา โดยเฉพาะไร่ชาที่มีพื้นที่ 2.6 เฮกตาร์ เป็นจุดนัดพบเพื่อให้นักท่องเที่ยวมาศึกษาชาที่มีชื่อเสียงของจังหวัดท้ายเหงวียน นาย เจิ่นญอเหือง รองหัวหน้าฝ่ายการสร้างสรรค์ชนบทใหม่จังหวัดท้ายเงวียนได้เผยว่า การสร้างเครื่องหมายการค้าชาผสานกับการท่องเที่ยวเป็นแนวทางที่ถูกต้องของจังหวัดท้ายเงวียน
“จากการปฏิบัติโครงการดังกล่าว เศรษฐกิจของท้องถิ่นได้รับการพัฒนา โครงการดังกล่าวยังช่วยเหลือประชาชนในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน”
การสร้างสรรค์และพัฒนาเครื่องหมายการค้าชาผสานกับการท่องเที่ยวในจังหวัดท้ายเงวียนเป็นเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนของจังหวัดฯ โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์การเกษตรเป็นหลัก เน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ OCOP ผสานกับการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจะมีส่วนช่วยแก้ปัญหาความยากจนและสร้างสรรค์เขตชนบทใหม่ในจังหวัดท้ายเงวียน.