(VOVWORLD) - หมู่บ้านชาวประมง โห่งจิ๊งห์ ในตำบลหว่าทั้ง อำเภอบั๊กบิ่งห์ จังหวัดบิ่งห์ถ่วน อยู่ห่างจากตัวเมืองฟานเที้ยดไปทางทิศเหนือประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นที่รู้จักของเหล่านักท่องเที่ยวเนื่องจากธรรมชาติที่สวยงามของตะไคร่น้ำที่ปกคลุมก้อนหินบนหาด หลังได้รับการลงทุนและเชื่อมโยงกับสถานที่ท่องเที่ยว เบ่าจั๊ง ในช่วงเวลาที่จะถึง ที่นี่จะกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ของแหล่งท่องเที่ยวระดับชาติ หมุยแน้ ของจังหวัดบิ่งห์ถ่วน
นายฟานดึ๊กถิง หนึ่งในผู้ก่อตั้งรีสอร์ท Stop and Go Lang Chai ในหมู่บ้านชาวประมง โห่งจิ๊งห์ เผยว่า หลังจากได้เดินทางไปเยือนตำบลหว่าทั้ง อำเภอบั๊กบิ่งห์ และใช้ชีวิตร่วมกับชาวประมงที่นี่ ตัวเขาเองได้สัมผัสกับความสวยงามที่เรียบง่ายของหมู่บ้านชาวประมง โห่งจิ๊งห์ ด้วยโขดหินที่ปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำสีเขียวเข้มสะท้อนแสงระยิบระยับ พร้อมเรือกระด้งหลายลำภายใต้ท้องฟ้าสีครามยามรุ่งอรุณ และเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ท้องทะเลที่นี่จะเปลี่ยนเป็นสีเงินพร้อมเกลียวคลื่นซึ่งเป็นภาพที่มีเสนห์ เมื่อปี 2019 นายถิงและเพื่อนๆ อาศัยในนครโฮจิมินห์ ได้ตัดสินใจทำธุรกิจการท่องเที่ยวที่หมู่บ้านแห่งนี้
“ด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามในบริเวณ ตำบลหว่าทั้งและเบ่าจั๊ง ผมหวังว่า จะได้ทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น และพัฒนาให้หมู่บ้านกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ในจังหวัดบิ่งห์ถ่วน”
โขดหินที่ปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำสีเขียวเข้มสะท้อนแสงระยิบระยับ |
ส่วนนาย กาวห่าเติน ผู้อำนวยการบริษัท Vietnam Aviation Sports Training เผยว่า หลังจากเดินทางไปเที่ยวและพักในรีสอร์ทที่หมู่บ้าน โห่งจิ๊งห์ กับเพื่อนๆ มาหลายรอบ เขาเห็นว่าที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่มีทิวทัศน์สวยงามและบรรยากาศที่น่าประทับใจหลายแห่ง เช่น หน้าผาเย้น หาดโมน เกาะหินเหง่ เกาะหินโห่ง เป็นต้น
“ผมและเพื่อนๆ ได้ไปเที่ยวเกาะหินโห่งมากว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งที่นี่สามารถบินร่มร่อนได้ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤศจิกายนทุกปี พร้อมยังมีเนินทรายที่มีลักษณะภูมิประเทศที่ค่อนข้างปลอดภัย สำหรับผู้ที่อยู่ในนครโฮจิมินห์ที่กำลังฝึกบินร่มร่อนก็มักเดินทางมาที่นี่”
หมู่บ้านชาวประมง โห่งจิ๊งห์ ตั้งอยู่บนถนนสองสายเลียบชายฝั่งคือหว่าทั้งและหว่าฟู้ ซึ่งถือเป็นถนนที่สวยที่สุดในเวียดนาม ปัจจุบันที่นี่มีประชากรกว่า 500 ครัวเรือน ก่อนหน้านั้น นอกเหนือจากการจับสัตว์น้ำตามเขตทะเลชายฝั่งแล้ว ผู้คนที่นี่ยังมีการปลูกแตงและมันสัมปะหลังบนดินปนทรายอีกด้วย และเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมปี 2018 นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติแผนการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแห่งชาติ หมุยแน้ จังหวัดบิ่งห์ถ่วน ตามแนวชายฝั่งทะเลจากตำบลฟานรี้เกื๋อในอำเภอตวีฟอง ไปจนถึงบริเวณทะเลหว่าทั้งในอำภอบั๊กบิ่งห์และบริเวณทะเลฟู้หายในอำเภอเมืองฟายเทียด นายตังเตี๊ยนวิงห์
รองประธานคณะกรรมการประชาชนตำบลหว่าทั้ง เผยว่า จนถึงปัจจุบัน นอกจากรีสอร์ท Stop and Go Lang Chai แล้ว ในหมู่บ้านโห่งจิ๊งห์ยังมีครัวเรือนที่ทำธุรกิจบริการที่พักกว่า 10 ครัวเรือน
“ตามมติของการประชุมพรรคสาขาระยะปี 2020-2025 ระบุว่า จะมีการปรับเปลี่ยนจากเศรษฐกิจการเกษตรมาเป็นการค้า การบริการ และการท่องเที่ยว ซึ่งประกอบด้วยการท่องเที่ยวทะเลทราย การท่องเที่ยวทางทะเล และการท่องเที่ยวสวน รวมถึงบริการด้านอาหารและโรงแรมที่พัก”
บินร่มร่อนที่เกาะหินโห่ง |
จากหมู่บ้านชาวประมงโห่งจิ๊งห์ เราสามารถนั่งรถไปยังมรดกแห่งชาติ “ทะเลทรายสะฮาราขนาดเล็ก” เบ่าจั๊ง ภายในเวลาเพียง 5 นาที โดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังสถานที่แห่งนี้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะในไตรมาสแรกของปี 2022 อยู่ที่ประมาณ 27,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดนัดหมายที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนจังหวัดบิ่งห์ถ่วน
รายงานของสำนักงานวัฒนธรรม การกีฬา และการท่องเที่ยวจังหวัดบิ่งห์ถ่วน ระบุว่า ตามแผนการวางระบบแหล่งท่องเที่ยวระดับชาติ หมุยแน้ หมู่บ้านชาวประมง โห่งจิ๊งห์ และ เบ่าจั๊ง ถือเป็นจุดเด่นในด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดบิ่งห์ถ่วน นายบุ่ยเท้เญิน ผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรม การกีฬา และการท่องเที่ยวจังหวัดบิ่งห์ถ่วน เผยว่า
“พวกเราจะเปลี่ยนขุมทรัพย์แห่งนี้ที่ธรรมชาติมอบไว้ให้ ให้กลายเป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ ด้านวัฒนธรรม การกีฬา และการท่องเที่ยวในระดับจังหวัด ระดับภูมิภาค และอาจถึงระดับนานาชาติ โดยทางการปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนที่นี่จะร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อมให้สะอาดเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ที่สวยงามในสายตาผู้มาเยือนที่ได้ปฏิบัติมาโดยตลอด”
ทั้งนี้ ถึงแม้อาจไม่คึกคักเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ แต่หมู่บ้านชาวประมง โห่งจิ๊ง ยังคงมอบความสงบสุขให้กับเหล่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาศึกษาค้นคว้าและสัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบชาวประมงอย่างแท้จริง.