เฟือกก๊าต พัฒนาจากผืนแผ่นดินที่ยากจน

(VOVWORLD) - เฟือกก๊าตคือตำบลเกษตรกรรมที่กำลังก้าวรุดหน้าพัฒนาเป็นหนึ่งในท้องถิ่นเดินหน้าในการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมของอำเภอก๊าตเตียน โดยเฉพาะเมื่อปี 2015 จังหวัดเลิมด่งได้รับรองเฟือกก๊าตเป็นตำบลตัวอย่างในขบวนการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ของอำเภอ ก๊าตเตียน

เฟือกก๊าต พัฒนาจากผืนแผ่นดินที่ยากจน - ảnh 1โรงงานแปรรูปมะม่วงหิมพานต์ของนาย ไบ๋ 

นับตั้งแต่ปี 2005 หลังจากมีการใช้งานโรงไฟฟ้าพลังน้ำบนแม่น้ำด่งนายได้ช่วยให้ตำบลเฟือกก๊าตไม่ประสบปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝนอีก อีกทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการปลูกต้นไม้อุตสาหกรรมและไม้ผล โดยเฉพาะการผลิตข้าวในบริเวณลุ่มน้ำและริมแม่น้ำ ทำให้จากที่เคยต้องรับการช่วยเหลือข้าวฉุกเฉินจากภาครัฐ เฟือกก๊าตได้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตพันธุ์ข้าวและข้าวที่มีเครื่องหมายการค้า “ข้าวก๊าตเตียน” ที่ได้รับการรับรองแหล่งที่มาจากกรมลิขสิทธิ์ทางปัญญาของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

นาย เลวันไบ๋ ผู้อำนวยการสหกรณ์การค้า การบริการ เลยา เผยว่า เมื่อปี 1982 เขาเป็นหนึ่งในคนแรกๆจากจังหวัดบิ่งดิ่งห์ที่มายังเฟือกก๊าต อำเภอก๊าตเตียนเพื่อปรับปรุงพื้นที่รกร้างว่างเปล่าเพื่อสร้างฐานะ ในตลอดกว่า 35 ปีที่มีความผูกพันกับผืนแผ่นดินนี้ จากมือเปล่า ปัจจุบัน นาย ไบ๋ มีชีวิตที่มั่นคง จากการสร้างฐานะด้วยอาชีพเกษตรกรรมและในหลายปีมานี้ นาย ไบ๋ ได้หันมาให้บริการและทำธุรกิจโดยสหกรณ์ เลยา ของเขาได้ผลิตพันธุ์พืช จัดสรรวัสดุทางการเกษตร รับซื้อและแปรรูปมะม่วงหิมพานต์เพื่อการส่งออก ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน สหกรณ์ เลยา ได้รับซื้อมะม่วงหิมพานต์กว่า 600 ตันจากเกษตรกรในท้องถิ่นเพื่อแปรรูปและส่งออก นาย ไบ๋ ยังอำนวยความสะดวกและสร้างงานทำที่มั่นคงให้แก่แรงงาน 80 คน “ผมโชคดีกว่าคนอื่นเพราะสมาชิกในสหกรณ์ขยันทำงานมาก ซึ่งเพื่อบรรลุผลงานนี้ ต้องมีความรับผิดชอบต่อคนรอบข้างเรา ชาวบ้านและสมาชิกของสหกรณ์ ต้องให้การช่วยเหลือสมาชิกของสหกรณ์ยากจน ในบางช่วง สหกรณ์มีแรงงาน 120 คน แรงงานหลายคนที่ทำงานมากกว่าคนอื่นก็มีรายได้สูงกว่า แต่รายได้เฉลี่ยต่อหัวสมาชิกสหกรณ์อยู่ที่ประมาณ 4.5 ล้านด่งต่อเดือน”

ส่วนนาย เหงยีนวันถิ่ง ผู้อำนวยการสหกรณ์การเกษตรเฟือกก๊าต ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างดีเด่นของตำบลเฟือกก๊าต  จากจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2010 ที่เปิดโรงสีขนาดเล็ก จนถึงขณะนี้ สหกรณ์ของนาย ถิ่ง ได้กลายเป็นโรงงานแปรรูปข้าว ที่มีกำลังการผลิต 1 หมื่น 8 พันตันต่อปี ส่วนใน 6 เดือนแรกของปีนี้ ได้จัดสรรข้าวที่มีเครื่องหมายการค้า “ข้าวก๊าตเตียน” เกือบ 1 หมื่นตัน ฟาร์มเลี้ยงสุกรของนาย ถิ่ง ก็พัฒนาอย่างเข้มแข็งโดยเฉลี่ยแต่ละเดือน ขายเนื้อสุกรได้ 8 ตัน มีรายได้กว่า 50 ล้านด่ง นอกจากนี้ นาย ถิ่ง ยังเป็นตัวอย่างเกี่ยวกับการปฏิบัติงานด้านการกุศลของอำเภอ ก๊าตเตียน โดยเขาไม่เพียงแต่สร้างความร่ำรวยให้แก่ตนเองเท่านั้น หากยังให้การช่วยเหลือชาวบ้าน โดยเฉพาะสมาชิกทหารผ่านศึก สร้างแหล่งเงินทุนและงานทำให้แก่พวกเขาเพื่อให้หลุดพ้นจากความยากจน ใน 2 ปีมานี้ นาย ถิ่ง ได้ผลักดันอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ปัจจุบัน สหกรณ์เฟือกก๊าตมีพื้นที่ปลูกหม่อน 12 เฮกตาร์และฟาร์มเลี้ยงไหมที่ก่อสร้างแบบครบวงจร สร้างงานทำให้แก่ชาวบ้านในท้องถิ่น “แนวทางในเวลาที่จะถึงของสหกรณ์คือการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนการสร้างงานทำในท้องถิ่นจะปรับปรุงเรื่อยๆและเมื่อเกิดประสิทธิผลก็จะขยายและรับแรงงานเพิ่มขึ้น ในเวลาที่ผ่านมา สหกรณ์ได้สร้างงานทำ และให้เงินเดือนในระดับที่เหมาะสม ดังนั้น ชาวบ้านจึงตอบรับการพัฒนาสหกรณ์อย่างเข้มแข็ง”

นาย หวอจุงลิง ประธานคณะกรรมการประชาชนเมืองเฟือกก๊าตได้เผยว่า รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรในเขตตัวเมืองเมื่อปี 2018 บรรลุ 48 ล้านด่งและจะพยายามบรรลุ 50 ล้านด่งในปีนี้ แต่แหล่งรายได้นี้มาจากการผลิตการเกษตรเป็นหลัก โดยเฉพาะการผลิต การจัดสรรพันธุ์ข้าวและข้าวพันธุ์พิเศษ “แนวทางของท้องถิ่นในปัจจุบันคือปรับลดโครงสร้างเศรษฐกิจของหน่วยงานการเกษตร ถึงแม้ชาวบ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก แต่พวกเราก็กำลังปฏิบัติตามแนวทางเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหน่วยงานการเกษตร เพราะตัวเมืองเฟือกก๊าตมีศักยภาพพัฒนาด้านการบริการ ซึ่งในปัจจุบัน ทางจังหวัดมีแนวทางให้การช่วยเหลือเปิดแหล่งท่องเที่ยว 3 แห่งคือก๊าตเตียน เขตกองทัพภาคที่ 6 และวัดไม้เฟือกก๊าต”

เฟือกก๊าต พัฒนาจากผืนแผ่นดินที่ยากจน - ảnh 2โรงงานเลี้ยงไหมของนาย ถิ่ง 

เมื่อกลางปี 2018 คณะกรรมาธิการสามัญสภาแห่งชาติได้ออกมติจัดตั้งตัวเมืองเฟือกก๊าตที่ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดเลิมด่ง ด่งนายและบิ่งเฟือก ปัจจุบัน ที่เฟือกก๊าต มีอาคารสูงหลายหลังและถนนสายหลักมีการติดตั้งไฟส่องสว่าง ตัวเมืองใหม่ได้รับการก่อตั้งในเขตชนบทที่อยู่ห่างไกลความเจริญ นาย เหงียนหว่างฟุก รองประธานคณะกรรมการประชาชนอำเภอก๊าตเตียนได้แสดงความเห็นว่า เฟือกก๊าตมีเงื่อนไขเพียงพอเพื่อกลายเป็นตัวอย่างดีเด่นในการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ของอำเภอก๊าตเตียน “สำหรับการปฏิบัติโครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ เมื่อก่อน ตำบลเฟือกก๊าตมีเงื่อนไขพัฒนาการเกษตร การค้าและการบริการ สำหรับการเกษตร เฟือกก๊าตมีพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำที่เหมาะสำหรับการปลูกข้าว ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและไม้ผล พรรคสาขาตำบลได้เน้นชี้นำการเปลี่ยนแปลงพันธุ์พืช ลงทุนเพื่อเพิ่มผลผลิต สำหรับการพัฒนาการค้าและการบริการ เฟือกก๊าตมีเงื่อนไขที่สะดวกเพื่อแลกเปลี่ยนการค้า การประกอบธุรกิจและพัฒนาการบริการแปรรูป เช่นมะม่วงหิมพานต์และข้าว”

เฟือกก๊าตเมื่อก่อนเป็นผืนแผ่นดินยากจน แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นท้องถิ่นที่พัฒนา เพราะตำบลได้มีรูปแบบดีเด่นในการพัฒนาเศรษฐกิจของท้องถิ่น เช่นรูปแบบการเลี้ยงโคและการพัฒนารูปแบบการเลี้ยงหม่อน ควบคู่กันนั้น ตำบลเฟือกก๊าตยังมีหมู่บ้านชนเผ่า ส่วนทางอำเภอก็เน้นชี้นำผลักดันการพัฒนาผ้าลายพื้นเมืองและการผลิตเหล้าอุเพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว นี่ก็คือหนึ่งในแนวทางใหม่ในขบวนการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ในตำบลเฟือกก๊าต.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด