(VOVworld) – ปัจจุบัน มีสถานประกอบการเวียดนามกำลังประกอบธุรกิจใน 16 แขวงจากทั้งหมด 18 แขวงของประเทศลาว และเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ กรุงเวียงจันทน์ ก็เป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรีลาว ทองลุน สีสุลิด ได้พบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการเวียดนามที่กำลังลงทุน ประกอบธุรกิจในประเทศลาว ซึ่งผู้ประกอบการเวียดนามได้แจ้งรับทราบเกี่ยวกับความสะดวก อุปสรรคและข้อสงสัยในการลงทุน ประกอบธุรกิจในประเทศลาว

จนถึงสิ้นเดือนกันยายนปี 2016 เวียดนามมี 266 โครงการที่ได้รับใบอนุญาตลงทุนในประเทศลาว รวมยอดเงินจดทะเบียน 5.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.3 เท่าในด้านจำนวนโครงการและ 1.26 เท่าในด้านเงินลงทุนเมื่อเทียบกับปี 2011 และอยู่อันดับ 3 ในจำนวนประเทศที่ลงทุนในประเทศลาวมากที่สุด เงินเอฟดีไอของเวียดนามในประเทศลาวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งด้านจำนวนโครงการและยอดเงินจดทะเบียน มูลค่าการค้าต่างตอบแทนในช่วงปี 2011-2015 อยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 20 ต่อปี แต่ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศและกิจกรรมการลงทุนของสถานประกอบการเวียดนามในประเทศลาวกำลังประสบอุปสรรค ดังนั้นการพบปะพูดคุยครั้งนี้จึงมีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อตัวของสถานประกอบการเวียดนามในประเทศลาวกว่า 200 คน นาย เหงียนกิมเซิน ผู้อำนวยการใหญ่กลุ่มบริษัทน้ำมันเวียดนามได้เผยว่า“ผมเห็นว่า การสนทนาได้ประสบความสำเร็จและนี่เป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรีลาวสนทนากับสถานประกอบการ และมีการเข้าร่วมของรัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วยของกระทรวง หน่วยงานต่างๆของลาวและได้ตอบคำถามปัญหาต่างๆของสถานประกอบการเวียดนามที่ประกอบธุรกิจในประเทศลาว นอกจากนั้น กระทรวงและหน่วยงานต่างๆได้อำนวยความสะดวกเพื่อให้สถานประกอบการเวียดนามมีโอกาสเข้าถึงผู้บริหารของสำนักงานวิชาชีพเพื่อร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาที่ยังมีข้อสงสัยเพื่อให้กระทรวงและหน่วยงานต่างๆร่วมกันแก้ไข”
ในการสนทนา ตัวแทนของสถานประกอบการใหญ่ๆของเวียดนามที่ลงทุนในประเทศลาว เช่นกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมยางพาราเวียดนาม กลุ่มบริษัทกอล์ฟลองแถ่งและกลุ่มบริษัทเคมีภัณฑ์เวียดนามในประเทศลาวได้ย้ำถึงอุปสรรคในการลงทุนในประเทศลาว เช่นการจ้างแรงงาน ที่ดินหรือระเบียบการให้แรงงานเวียดนามไปทำงานในประเทศลาว นาย เหงียนเตี๊ยนดึ๊ก รองผู้อำนวยการใหญ่กลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมยางพาราเวียดนามได้เสนอว่า“ปัญหาแรงงานเป็นอุปสรรคในด้านที่ต้องการใช้แรงงานเยอะอยู่เสมอ เช่นโครงการของกลุ่มบริษัทยางพารา ในเขตที่ปฏิบัติโครงการกำลังขาดแคลนแรงงานและแรงงานที่มีทักษะความสามารถ สำหรับปัญหาที่ดิน ปัจจุบัน บริษัท Quasa-Gercuco ยังไม่สามารถลงนามสัญญาเช่าที่ดินกับรัฐบาลลาวได้ ดังนั้น พวกเรามีข้อเสนอแนะ 3 ข้อ คือสำหรับที่ดิน ขอเสนอให้รัฐบาล กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นพยายามช่วยเหลือสถานประกอบการปรับปรุงเอกสารทางนิตินัยด้านที่ดินให้มีความสมบูรณ์ 2คือสำหรับกรอบเวลา ผมขอเสนอให้สถานทูตเห็นพ้องเกี่ยวกับกรอบเวลาเช้าที่ดินและปัญหาการคืนเงินภาษีให้แก่สถานประกอบการ 3 คือค่าใช้จ่ายสำหรับแรงงานเวียดนามที่ต้องการไปทำงานในประเทศลาวยังสูงมาก โดยเกือบเท่ากับร้อยละ 20 รายได้ของแรงงาน ผมมีความประสงค์ว่า รัฐบาลลาวจะลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้”

สถานประกอบการเวียดนามประสบอุปสรรคและมีข้อสงสัยเนื่องจากทั้งสองประเทศยังไม่มีข้อแนะนำชัดเจนในการปฏิบัติข้อตกลงที่ได้ลงนาม ไม่มีนโยบายให้การช่วยเหลือ หรือสิทธิพิเศษเกี่ยวกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตทุรกันดารและเขตเขาเพื่อดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนต่างประเทศ ในการสนทนาที่มีขึ้นเป็นเวลา 3 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีลาวได้รวบรวมข้อเสนอแนะของสถานประกอบการเวียดนาม อีกทั้งส่งเสริมให้สถานประกอบการเวียดนามลงทุนในประเทศลาวในระยะยาว“ผมขอเสนอให้สถานประกอบการเวียดนามที่ลงทุนในประเทศลาวต้องเหมือนทหารอาสาเมื่อก่อน การลงทุนในประเทศลาวไม่ควรเห็นแก่ผลประโยชน์ในระยะสั้น หากต้องคำนึงถึงยุทธศาสตร์ในระยะยาวเพื่อเลือกด้านลงทุนที่เป็นรูปธรรม และตามจุดแข็งของตนเพื่อนำผลประโยชน์มาให้แก่ทั้งสองประเทศ ประเทศลาวไม่มีทะเลและทางรถไฟ ดังนั้นต้องพิจารณาว่า จะลงทุนในด้านไหนเพื่อให้เกิดประสิทธิผลและต้องพยายามแก้ไขอุปสรรคเพื่อพัฒนา ผมชื่นชมความพยายามของสถานประกอบการเวียดนาม ตลอดจนการอำนวยความสะดวกเพื่อผลักดันความร่วมมือของพรรคและรัฐบาลเวียดนาม”
ถึงแม้การสนทนามีขึ้นเป็นเวลาอันสั้นๆ แต่การที่นายกรัฐมนตรีและบรรดารัฐมนตรีกว่าครึ่งหนึ่งของรัฐบาลลาวเข้าร่วมการสนทนาได้พิสูจน์ให้เห็นว่า รัฐบาลลาวมีความประสงค์ดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนเวียดนามมากขึ้น มีส่วนร่วมเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ยาวนาน พิเศษและความร่วมมือในทุกด้านกับเวียดนาม.