นักศึกษาลาวถ่ายรูปกับครูอาจารย์และผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุมสรุปผลการปฏิบัติโครงการโฮมสเตย์ครบรอบ 5 ปี

โครงการโฮมสเตย์ของโรงเรียนฯ ได้เริ่มปฏิบัติตั้งแต่ปีการศึกษา 2014-2015 และถึงขณะนี้ได้ครบรอบ 5 ปีแล้ว โดยมีนักศึกษาลาวที่ผ่านการฝึกอบรมเกือบ 500 คนและมีการขยายขอบเขตครอบคลุมทั่วอำเภอเมืองเถาะหลก นับตั้งแต่ที่การทดลองปฏิบัติโครงการโฮมสเตย์ในปีการศึกษา 2014-2015 ที่มีนักศึกษาลาว 19 คนและมีครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการ 10 ครอบครัวในหมู่บ้านหมายเลข 1 ถึงปัจจุบันในปีการศึกษา 2018-2019 ได้มีนักศึกษาลาว 166 คนและครอบครัวชาวเวียดนามกว่า 100 ครอบครัวใน 4 หมู่บ้านของอำเภอเมืองแห่งนี้ที่เข้าร่วมโรงการโฮมสเตย์ นาย เหงียนแทงหาย รองอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงศึกษาและฝึกอบรมเผยว่า            “นี่คือรูปแบบการศึกษาที่มีประสิทธิภาพที่ประเทศพัฒนาปฎิบัติกัน พวกเราขอชื่นชมความพยายามของโรงเรียนฯในการปฏิบัติรูปแบบนี้เพราะเป็นกิจกรรมที่มีประสิทธิภาพในหลายด้าน ซึ่งไม่เพียงแต่มีความหมายในด้านวิชาการที่ช่วยให้นักเรียนฝึกอบรมและเรียนภาษาเวียดนามเท่านั้นหากยังช่วยเพิ่มความรู้ด้านชีวิต วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีเวียดนามให้แก่พวกเขาอีกด้วย”

ในขณะที่เข้าร่วมโครงการฯ นักเรียนต้องใช้ภาษาเดียวคือภาษาเวียดนามในการสื่อสาร จึงต้องพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อให้ออกเสียงอย่างถูกต้องเพื่อช่วยให้ผู้ฟังสามารถเข้าใจได้ การอาศัยอยู่กับครอบครัวคนเวียดนามได้ช่วยให้นักเรียนลาวศึกษาทักษะทั้งการพูด การฟัง การอ่านและการเขียน คุณ สุทัด ถาวร นักศึกษาลาวคนหนึ่งเผยว่า            “ตอนแรงดิฉันรู้สึกกังวลไม่มั่นใจที่จะมาอยู่กับครอบครัวชาวเวียดนามเพราะภาษาเวียดนามของดิฉันยังไม่ดี กลัวว่าพูดแล้วพวกเขาจะไม่เข้าใจ แต่หลังจากที่มาอยู่แล้วก็ได้รับการช่วยเหลืออย่างอบอุ่นจากสมาชิกในครอบครัว จึงสามารถพัฒนาภาษาเวียดนามได้ บางคำที่ดิฉันไม่ทราบหรือไม่เข้าใจ ทุกคนก็พยายามอธิบายให้เข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง ต่อมาดิฉันก็เห็นว่า ภาษาเวียดนามของดิฉันก็ดีขึ้นแล้ว”

นาย อำพาวัน กว้างมะนีวัน ที่ปรึกษาฝ่ายศึกษาวัฒนธรรม สถานทูตลาวประจำเวียดนามกล่าวปราศรัยในงาน

นี่คือขนม “โจย” ของคนเวียดนาม ซึ่งใช้ในงาน “แทงมิงห์” วันที่ 3 เดือน 3 ตามจันทรคติ โดยวัตถุดิบประกอบด้วย แป้งข้าวเหนียว น้ำตาลอ้อยและงา วิธีการทำ ผสมน้ำกับแป้งข้าวเหนียวปั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วต้มให้สุก

แม้มีความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุดิบในการทำขนมนี้ แต่เมื่อสาธิตให้หลายคนชม สุธี ยังต้องการความช่วยเหลือจากสมาชิกในครอบครัวของนายบุ๊ดเพื่อแนะนำเมนูนี้เป็นภาษาเวียดนาม นี่คือวัตถุประสงค์ของโครงการฯ คือช่วยให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับภาษาและวัฒนธรรมเวียดนาม ครูเหงียนถิญิงเผยว่า            “จากการเฝ้าติดตาม ประเมินและสอนให้แก่นักศึกษาลาว ดิฉันเห็นว่า พวกเขามีการพัฒนาในด้านภาษาเวียดนามมาก ไม่ว่าจะเป็นการพูดและความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมของเวียดนาม โดยเฉพาะมีความรักและผูกพันใกล้ชิดกับครอบครัวเวียดนาม”

การส่งนักเรียนลาวไปอาศัยอยู่กับครอบครัวเวียดนามได้ช่วยให้พวกเขาปรับตัวเข้ากับชีวิตของคนเวียดนามได้อย่างเต็มที่ ซึ่งมีส่วนร่วมปรับปรุงและเสริมสร้างไมตรีจิตมิตรภาพพิเศษระหว่างเวียดนามกับลาว นาย อำพาวัน กว้างมะนีวัน ที่ปรึกษาฝ่ายศึกษาวัฒนธรรม สถานทูตลาวประจำเวียดนามเผยว่า “นี่คือโครงการสำคัญสำหรับนักเรียนลาวในการเรียนภาษาเวียดนามเพื่อใช้ในการศึกษาและวิจัยในประเทศเวียดนาม การเรียนในห้องเรียนจะไม่มีประสิทธิภาพเหมือนการเรียนแบบนี้ สิ่งที่สำคัญคือช่วยให้นักเรียนลาวมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนเวียดนาม พูดคุยและศึกษากับคนเวียดนาม หวังว่า โครงการนี้จะได้รับการขยายผลในโรงเรียนอื่นๆที่มีนักศึกษาลาวที่กำลังเรียนภาษาเวียดนามเพราะนับวันมีนักศึกษาลาวมาที่นี่เพื่อเรียนภาษาเวียดนามมากขึ้น”

ในเวลาข้างหน้า ทางโรงเรียนฯ จะเสนอให้ทางการปกครองทุกระดับอนุญาตให้เพิ่มจำนวนนักศึกษาลาวที่เข้าร่วมโครงการโฮมสเตย์และขยายเวลาเป็น 2-3 เดือนแทน 20 วันเหมือนในปัจจุบัน.