การร้องเพลงสิ่นห์กา (Xình Ca) ในจังหวัดกว๋างนิง

(VOVWORLD) - ชาวกาวลานของชนเผ่าสานใจอาศัยในจังหวัดต่างๆในภาคเหนือ เช่น จังหวัดเอียนบ๊าย จังหวัดเตวียนกวาง จังหวัดฟู้เถาะ จังหวัดท้ายเงวียน จังหวัดบั๊กยาง จังหวัดกาวบั่ง จังหวัดหล่างเซินและจังหวัดกว๋างนิง โดยที่อำเภอบาแจ๊ จังหวัดกว๋างนิง มีประชากร 500 คน และสามารถอนุรักษ์คุณค่าวัฒนธรรมของชนเผ่าเอาไว้ได้ โดยเฉพาะ การร้องเพลงสิ่นห์กา (Xình Ca) หรือการร้องเพลงโต้ตอบระหว่างหนุ่มสาว
การร้องเพลงสิ่นห์กา (Xình Ca) ในจังหวัดกว๋างนิง - ảnh 1การร้องเพลงสิ่นห์กา (Xình Ca) หรือการร้องเพลงโต้ตอบระหว่างหนุ่มสาว(daidoanket.vn)
 
 เพลงสิ่นห์กา (Xình Ca)ของชาวกาวลานในอำเภอบาแจ๊มีเนื้อร้องที่เรียบง่าย คล้ายคำกลอนที่ใช้โต้ตอบระหว่างหนุ่มสาว ซึ่งเพลงสิ่นห์กา (Xình Ca)ของชาวกาวลานในอำเภอบาแจ๊ก็เหมือนกับเพลงสิ่นห์กา (Xình Ca)ของชาวกาวลานในจังหวัดอื่นๆที่ชายหนุ่มมักจะไปหาแฟนที่บ้านหรือหนุ่มสาวจะร้องเพลงโต้ตอบกันที่สถานที่นัดพบ

ศิลปินอาวุโสหลุกวันบิ่ง รองประธานคณะกรรมการประชาชนตำบลแทงเซิน อำเภอบาแจ๊ จังหวัดกว๋างนิงได้เผยว่า“วิธีการร้องเพลงสิ่นห์กา (Xình Ca)ของชาวกาวลานในอำเภอบาแจ๊แตกต่างกับการร้องเพลงสิ่นห์กา (Xình Ca)ของชาวกาวลานในจังหวัดอื่น โดยใช้ทำนองเนื้อร้องตามคำพูดของชาวกาวลานโบราณ”

เนื้อร้องเพลงสิ่นห์กา (Xình Ca)ของชาวกาวลานใช้วิธีการสื่อความหมายโดยเปรียบเทียบระหว่างสิ่งต่างๆเพื่อช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจเรื่องราวต่างๆ เช่น ปรากฏการณ์ธรรมชาติและเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน  ศิลปินอาวุโสหลุกวันบิ่งเผยต่อไปว่า เนื้อร้องมักจะมี 4 ประโยค“เพลงสิ่นห์กาในงานแต่งงานมีท่อนหนึ่งความว่า ขอเชิญน้องมาดื่มเหล้าเพื่อให้เรากลายเป็นคู่รัก ถ้าน้องไม่อยากดื่ม เราก็เดินคนละทาง ส่วนสำหรับเพลงเชิญน้องเข้าบ้าน มีท่อนหนึ่งความว่า น้องเปรียบเหมือนนกกะราง ขอเชิญนกกะรางเข้าบ้าน บ้านพี่ไม่มีเหล้า มีแต่น้ำเชิญน้อง”

แม้การร้องเพลงสิ่นห์กาของชาวกาวลานจะไม่มีดนตรีบรรเลงประกอบ แต่ก็สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ที่ได้ฟังเนื่องจากเสียงร้องที่ไพเราะเสนาะหู ศิลปินอาวุโสหลุกวันบิ่งเผยต่อไปว่า“ศิลปินอาวุโสชาวกาวลานสามารถร้องเพลงสิ่นห์กาได้ทั้งวันทั้งคืน การร้องเพลงมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกที่ไม่สามารถได้อธิบายผ่านคำพูด”

ปัจจุบัน ศิลปินอาวุโสหลุกวันบิ่งกำลังพยายามสอนการร้องเพลงสิ่นห์กาให้แก่ชาวกาวลานรุ่นต่างๆในอำเภอเขตเขาบาแจ๊เพื่อมีส่วนร่วมอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนเผ่าเอาไว้ให้แก่คนรุ่นหลังได้สืบทอดต่อไป.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด