กองทัพประชาชนเวียดนามมาจากประชาชนเพื่อรับใช้ประชาชน

(VOVWORLD) - ด้วยเจตนารมณ์ “การรับมือการแพร่ระบาดเหมือนการต่อสู้กับศัตรู” กองทัพประชาชนเวียดนามกำลังเป็นกองกำลังแกนหลักในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในทั่วประเทศ โดยเฉพาะในจังหวัดต่างๆทางภาคใต้ แต่กลุ่มผู้ที่ไม่หวังดีได้แสดงความระแวงสงสัยเกี่ยวกับเป้าหมายของกระบวนการต่อสู้ดังกล่าวว่าทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชาติ เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนจริงหรือไม่ โดยได้ทำการปล่อยข่าวที่บิดเบือนความจริงในสภาวการณ์ที่ทั้งระบบการเมือง หน่วยงานทุกระดับและประชาชนทั่วประเทศกำลังพยายามร่วมกับประชาชนภาคใต้ในการควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งถือเป็นคารมที่ขาดภาวะวิสัยและไม่เป็นธรรม
กองทัพประชาชนเวียดนามมาจากประชาชนเพื่อรับใช้ประชาชน - ảnh 1ภาพพิธีส่งแพทย์ทหารไปปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในแนวหน้า

เพื่อปฏิบัติคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เกี่ยวกับการขยายกองกำลังที่เข้าร่วมการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในนครโฮจิมินห์และจังหวัดต่างๆทางภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม ได้มีการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจและแพทย์ในทั่วประเทศไปช่วยเหลือจังหวัดต่างๆทางภาคใต้หลายครั้ง โดยภาพเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ทหารบ้านและกองกำลังอื่นๆร่วมแจกอาหาร ช่วยเหลือผู้ติดเชื้อที่กำลังรักษาตัวที่บ้านและดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคมนั้นถือเป็นที่พึ่งทางจิตใจของประชาชนนครโฮจิมินห์และจังหวัดใกล้เคียง

สำหรับกองทัพ การปฏิบัติหน้าที่ที่เร่งด่วนเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนคือการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ โดยในประวัติศาสตร์และในมิติแห่งเกียรติประวัติวัฒนธรรม กองทัพเวียดนามมีความผูกพันกับประชาชนอย่างแนบแน่นและได้รับการธำรงเสริมสร้างผ่านช่วงประวัติศาสตร์ต่างๆ กองทัพประชาชนเวียดนามมาจากประชาชน ทำการต่อสู้และพร้อมเสียสละเพื่อประชาชน ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างทหารกับประชาชนเปรียบเสมือนความผูกพันของปลาและน้ำ ดังนั้น กองทัพไม่เพียงแต่ปฏิบัติหน้าที่สำคัญคือฝึกซ้อมและเข้าร่วมการสู้รบเพื่อปกป้องปิตุภูมิเท่านั้น หากยังช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติอีกด้วย โดยภาพทหารเกี่ยวข้าวในท้องถิ่นที่ประสบอุทกภัย ช่วยอพยพประชาชนไปยังเขตปลอดภัย อีกทั้งปฏิบัติหน้าที่ค้นหาและกู้ภัยเป็นภาพที่คุ้นเคยของประชาชนเวียดนาม การที่กองทัพเข้าร่วมการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในนครโฮจิมินห์คือการสานต่อเกียรติประวัติของความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างทหารกับประชาชน

นครโฮจิมินห์และจังหวัดต่างๆทางภาคใต้กำลังต้องเผชิญการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างซับซ้อนตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม โดยทั้งระบบการเมืองและประชาชนทุกคนกำลังประสบความยากลำบากนานัปการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆที่ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดในแนวหน้ากำลังทุ่มเททำงานทั้งช่วงกลางวันและกลางคืนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้อย่างรวดเร็ว นี่ไม่เพียงแต่เป็นความมุ่งมั่นตั้งใจและเป้าหมายสูงสุดของนครโฮจิมินห์และท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดในปัจจุบันเท่านั้น หากยังเป็นหน้าที่ของประเทศเวียดนามอีกด้วย ซึ่งการตัดสินใจส่งทหารไปประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆในการควบคุมการแพร่ระบาดในนครโฮจิมินห์และท้องถิ่นต่างๆมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของการปฏิบัติมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ควบคุมการแพร่ระบาด ป้องกันไม่ให้เกิดความไร้เสถียรภาพทางการเมืองและดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคมซึ่งถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องและจำเป็น นอกจากแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแล้ว ไม่มีหน่วยงานใดที่เป็นมืออาชีพและปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่ากองทัพเพราะหลังจากพบผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศ กองทัพได้เป็นกองกำลังแกนหลักในการป้องกันรับมือการแพร่ระบาดในเวียดนามและจนถึงขณะนี้ ได้ปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ เช่น ควบคุมเขตชายแดน บริหารจัดการเขตแยกตัว ทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ สนับสนุนการตรวจหาเชื้อและฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน รวมถึงการคัดกรอง รักษาผู้ติดเชื้อและจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19

กองทัพประชาชนเวียดนามมาจากประชาชนเพื่อรับใช้ประชาชน - ảnh 2ทหารแจกอาหารและสินค้าที่จำเป็นให้แก่ประชาชนในเขต 7 นครโฮจิมินห์

การที่กองทัพเวียดนามเข้าร่วมการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สอดคล้องกับธรรมเนียมปฏิบัติสากลในสภาวการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในทั่วโลก โดยหลายประเทศได้ระดมกองทัพเข้าร่วมการควบคุมการแพร่ระบาดผ่านกิจกรรมต่างๆที่หลากหลาย เช่น แจกอาหารและยารักษาโรค เข้าร่วมการรักษาผู้ติดเชื้อ รักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย ค้ำประกันให้ประชาชนปฏิบัติตามข้อจำกัดในการเดินทางและมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม อีกทั้งช่วยเหลือประชาชนในการซื้อสินค้าที่จำเป็น การผลิต การเก็บรักษาและขนส่งอุปกรณ์การแพทย์ เช่น ชุดพีพีอี เครื่องช่วยหายใจและถังออกซิเจน ตลอดจนเข้าร่วมการตรวจหาเชื้อ คัดกรองและรักษาผู้ติดเชื้อ โดยที่ประเทศจีน ได้มีการส่งแพทย์ทหาร 10,000 นายไปรักษาผู้ติดเชื้อในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ส่วนที่ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี กองทัพได้มีบทบาทที่สำคัญในการควบคุมการแพร่ระบาด ในขณะที่เมื่อต้นปีนี้ กระทรวงกลาโหมอังกฤษได้ยืนยันว่า การเข้าร่วมของกองทัพในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คือยุทธนาการทางทหารที่ใหญ่ที่สุดในยามสันติ โดยได้ส่งทหารกว่า 5,000 นายเข้าร่วมการฉีดวัคซีน การตรวจหาเชื้อและกิจกรรมอื่นๆ ส่วนที่ประเทศอินเดีย เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้มีการจัดตั้งหน่วยงานควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายใต้การตรวจสอบของรองเสนาธิการใหญ่กองทัพบกเพื่อประสานกิจกรรมช่วยเหลือและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ แม้ขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่และการช่วยเหลือจะมีความแตกต่างกัน แต่กองทัพประเทศต่างๆ รวมถึงกองทัพประชาชนเวียดนามกำลังมีส่วนร่วมปฏิบัติหน้าที่สำคัญๆ รวมถึงการวางแผนบริหารจัดการวิกฤต ช่วยเหลืองานด้านสาธารณสุขและควบคุมโรคระบาด ซึ่งคารมที่บิดเบือนความจริงเกี่ยวกับการเข้าร่วมของกองทัพในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเวียดนามคือสิ่งที่ขาดภาวะวิสัย เป็นการใส่ร้ายและขาดมนุษยธรรม.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด