การก่อการร้าย – ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ด้านความมั่นคงของโลกในปี 2016

(VOVworld) – การโจมตีก่อการร้ายในตุรกี เหตุลอบวางระเบิดที่สถานีรถไฟและสนามบินในเบลเยี่ยมและเหตุเครื่องบินอียิปต์ขณะบินจากกรุงปารีสไปยังกรุงไคโร เป็น 3 เหตุการณ์จากเหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้นนับร้อยครั้งในปี 2016 ซึ่งทำให้ประชาคมโลกรู้สึกไม่พอใจและหันมาสนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะการเคลื่อนไหวของผู้ก่อการร้ายที่นับวันรุนแรงมากขึ้นได้กลายเป็นภัยคุกคามใหม่ต่อความมั่นคงและสันติภาพของโลกในปี 2016

(VOVworld) – การโจมตีก่อการร้ายในตุรกี เหตุลอบวางระเบิดที่สถานีรถไฟและสนามบินในเบลเยี่ยมและเหตุเครื่องบินอียิปต์ขณะบินจากกรุงปารีสไปยังกรุงไคโร เป็น 3 เหตุการณ์จากเหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้นนับร้อยครั้งในปี 2016 ซึ่งทำให้ประชาคมโลกรู้สึกไม่พอใจและหันมาสนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะการเคลื่อนไหวของผู้ก่อการร้ายที่นับวันรุนแรงมากขึ้นได้กลายเป็นภัยคุกคามใหม่ต่อความมั่นคงและสันติภาพของโลกในปี 2016

การก่อการร้าย – ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ด้านความมั่นคงของโลกในปี 2016 - ảnh 1
ตำรวจตุรกีจับกุมตัวผู้เดินขบวนประท้วงคนหนึ่ง (Photo AFP/VNplus)
ปีที่เต็มไปด้วยความปวดร้าวและความสูญเสีย

ตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยความไร้เสถียรภาพในตลอดนับสิบปีที่ผ่านมาได้กลายเป็นจุดร้อนของโลกอีกครั้งเพราะ 2 ประเทศที่แข็งแกร่งของภูมิภาคคืออียิปต์และตุรกีได้เผชิญกับความสูญเสียจากการถูกก่อการร้ายใน3วันที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายร้อยคน

ที่ประเทศอียิปต์ ซึ่งตกอยู่ในวิกฤตด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจในตลอด 5 ปีที่ผ่านมาก็ต้องรับมือกับเหตุลอบวางระเบิดก่อการร้ายที่นองเลือดรวม 2 ครั้งภายใน 3 วัน คือในระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คนและได้รับบาดเจ็บเกือบ 60 คน ส่วนที่ประเทศตุรกี เหตุลอบวางระเบิดซ้อนกันสองครั้งนอกสนามกีฬาในเมืองอิสตันบูล ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเมื่อค่ำวันที่ 10 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 38 คนและได้รับบาดเจ็บ 155 คน โดยพรรคแรงงานชาวเคิร์ดหรือพีเคเคได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบเกี่ยวกับการก่อเหตุระเบิดดังกล่าวพร้อมทั้งเผยว่าเป็นผู้ก่อเหตุลอบวางระเบิดอย่างนองเลือดที่กรุงอังการาเมื่อปีที่แล้วทำให้มีผู้เสียชีวิต 37 คนและได้รับบาดเจ็บนับร้อยคน ซึ่งบรรดาผู้สังเกตการณ์ให้ข้อสังเกตว่า การโจมตีก่อการร้ายที่นองเลือดในตะวันออกกลางในหลายวันที่ผ่านมาอาจเป็นการเริ่มต้นของกระแสการก่อการร้ายและการใช้ความรุนแรงอย่างนองเลือดครั้งใหม่ในภูมิภาคตะวันออกกลางที่ยังคงเต็มไปด้วยความไร้เสถียรภาพและถือเป็นแดนสรรค์ให้ลัทธิก่อการร้ายและหัวรุนแรงขยายอิทธิพล

เหตุก่อการร้ายนับวันรุนแรงมากขึ้น

ถ้ามองย้อนกลับไปใน 1 ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่า นอกจากภูมิภาคตะวันออกกลางแล้ว ในภูมิภาคอื่นๆก็เกิดความสูญเสียจากเหตุก่อการร้ายในระดับที่น่ากังวลเช่นกัน ตามข้อมูลสถิติอย่างไม่เป็นทางการของกระทรวงรักษาความมั่นคงภายในของสหรัฐปรากฎว่า มีแผนการก่อการร้ายใส่บรรดาประเทศตะวันตก 100 แผนการและมีร้อยละ 44 ที่สามารถก่อเหตุได้สำเร็จ ซึ่งสูงกว่าอัตราร้อยละ 33 ของปี 2015

ตามแผนผังลับของทำเนียบขาวที่ถูกเปิดเผยโดยสถานีเอ็นบีซีนิวส์เมื่อเร็วๆนี้ กลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบันได้ขยายการเคลื่อนไหวไปยัง 18 ประเทศในปี 2016 เพิ่มขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2014 และสามารถระดมเงินทุนถึง2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี มีนักรบประมาณ 2 แสนคนพร้อมกับนโยบายเปิดรับสมาชิกอย่างกว้างขวางจนกลายเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่ร่ำรวยและแข็งแกร่งที่สุดในโลก โดยมีรายได้จากการขายน้ำมันในตลาดมืดและการลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ถึง 2 ล้านดอลลาร์ต่อวัน

ถึงแม้ปี 2016 ถือเป็นปีที่ยุทธนาการต่อต้านกลุ่มไอเอสของพันธมิตรนานาชาติซึ่งนำโดยสหรัฐ ประสบความสำเร็จในเบื้องต้นและความพ่ายแพ้ในสมรภูมิต่างๆอย่างต่อเนื่องในเวลาที่ผ่านมาได้ทำให้กลุ่มไอเอสต้องสูญเสียพื้นที่ร้อยละ 40 ของฐานที่มั่นใหญ่ในประเทศซีเรียและอิรักแต่นี่ก็เป็นเหตุผลทำให้เกิดการตอบโต้อย่างรุนแรงของพวกเขาในภูมิภาค รวมทั้งการโจมตีนักท่องเที่ยวในนครต่างๆทั่วโลก และที่น่าเป็นห่วงคือการโจมตีแบบ “หมาป่าโดดเดี่ยว” ได้สะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายของการก่อการร้ายรูปแบบใหม่นี้ โดยตัวอย่างที่เด่นชัดก็คือ เหตุโจมตีด้วยรถยนต์ที่เมืองท่องเที่ยว นีซ ทางภาคใต้ของฝรั่งเศสเมื่อเดือนกรกฎาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 84 คนและเหตุกราดยิงที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนีเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม

การก่อการร้าย – ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ด้านความมั่นคงของโลกในปี 2016 - ảnh 2
ตำรวจตุรกีรักษาความปลอดภัย (Photo AFP/VNplus)

การต่อสู้ที่ยังเต็มไปด้วยอุปสรรค

จำนวนผู้ก่อการร้ายที่ลงมือก่อเหตุแบบโดดเดี่ยวนับวันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งสาเหตุเนื่องจากช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน ระหว่างผู้อพยพและชาวท้องถิ่นซึ่งทำให้สังคมนับวันถูกแบ่งแยกมากขึ้น การเพิ่มกระแสผู้อพยพตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบันทำให้แนวโน้มความไม่ยุติธรรมนี้ขยายตัวมากขึ้นและพวกเขาเหล่านั้นคือกลุ่มเป้าหมายที่ง่ายต่อการถูกชักจูงให้เข้าร่วมกลุ่มก่อการร้ายและถูกฝังแนวคิดหัวรุนแรงหรือตกเข้าสู่ภาวะเศร้าซึม จนกลายเป็นผู้ก่อการร้ายที่มีแผนการโจมตีอย่างนองเลือด

ปี 2016 ถือเป็นปีที่เหตุก่อการร้ายเพิ่มขึ้นอย่างเข้มแข็งในทั่วโลก โดยสงครามกลางเมืองในซีเรีย การปะทะทางชาติพันธุ์ในบรรดาประเทศตะวันออกกลางเป็นเงื่อนไขที่สะดวกให้ลัทธิก่อการร้ายและหัวรุนแรงได้พัฒนาและแผ่อิทธิพล โดยไม่เพียงแต่ก่อเหตุที่รุนแรงอย่างนองเลือดในภูมิภาคตะวันออกกลางเท่านั้น หากยังทำการก่อเหตุเพื่อมุ่งเอาชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์นอกภูมิภาคอีกด้วย ดังนั้นเมื่อย่างเข้าสู่ปี 2017 ประชาคมระหว่างประเทศจึงตั้งความหวังต่อความพยายามร่วมกันที่มีความเข้มแข็งมากขึ้น ทั้งในด้านการทหารและจิตสำนึกของผู้นำระดับโลกเพื่อยับยั้งและทำลายแผนการก่อการร้ายต่างๆในทั่วโลก.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด