การปฏิรูประเบียบเศรษฐกิจคือพื้นฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน

(VOVWORLD) - รัฐบาลเวียดนามได้ก้าวเข้าสู่ปี 2020 ด้วยความตั้งใจผลักดันการปฏิรูปกลไกระเบียบราชการอย่างเข้มแข็งเพื่ออำนวยความสะดวกมากขึ้นต่อการบังคับใช้กฎหมาย ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและสร้างพื้นฐานให้แก่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
การปฏิรูประเบียบเศรษฐกิจคือพื้นฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน - ảnh 1

การที่เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเหงียนฟู้จ่องและนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุ๊ก ต่างมีบทปราศรัยที่สำคัญในการประชุมปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมปี 2020 ของรัฐบาลเมื่อปลายเดือนธันวาคมปี 2019 ได้แสดงให้เห็นถึงการดูแลเอาใจใส่ของผู้นำระดับสูงต่อการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาในปี 2020 หลังจากนั้น ได้มีการจัดตั้งกลุ่มปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบกฎหมายของรัฐบาลและกลุ่มปฏิบัติงานด้านการผลักดันการปฏิรูปกลไกระเบียบการที่จะได้รับการเปิดตัวในไม่ช้านี้ ซึ่งถือเป็นแนวทางใหม่เพื่อผลักดันการปรับปรุงระบบกฎหมายให้มีความสมบูรณ์และการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปฏิรูประเบียบเศรษฐกิจ สร้างบรรยากาศที่อำนวยความสะดวกให้แก่การประกอบธุรกิจ

ตั้งแต่ต้นปี 2020 กลุ่มปฏิบัติงานของรัฐบาลได้หารือกับกระทรวง หน่วยงานและสำนักงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการวางแผนและมาตรการปรับลดและแผนการตัดลดหรือลดขั้นตอนระเบียบการต่างๆที่เกี่ยวข้องถึงการผลิตและประกอบธุรกิจในระยะปี 2020-2025 ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น โดยตัดลดข้อกำหนดที่เป็นอุปสรรค ยับยั้งการเพิ่มข้อกำหนดใหม่ๆที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นและเป็นอุปสรรคต่อสถานประกอบการ โดยเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมคือ การตัดลดจำนวนเอกสารที่ประกาศภายใต้กรอบอำนาจของรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลอย่างน้อยร้อยละ 20 ลดค่าใช้จ่ายอย่างน้อยร้อยละ 20 ต่อปีในการปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจในระหว่างปี 2020-2025 นาย มายเตี๊ยนหยุง รัฐมนตรีประจำสำนักรัฐบาลเผยว่า            “กฎหมายและกฤษฎีกาแต่ละฉบับจะกำกับการปรับ 1 – 2 มติ ไม่ควรประกาศมากเกินไป โดยเฉพาะพยายามหลีกเลี่ยงการเพิ่มเอกสารเพื่อแก้ไข 1-2 มาตราในมติเท่านั้น พยายามประกาศมติและแผนการนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2020”

การปฏิรูประเบียบเศรษฐกิจคือพื้นฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน - ảnh 2 นาย มายเตี๊ยนหยุง รัฐมนตรีประจำสำนักรัฐบาล (Photo VGP)

ก่อนหน้านั้น เมื่อปี 2019 รัฐบาลได้ประกาศมติต่างๆอย่างต่อเนื่องเพื่อปฏิรูปบรรยากาศการประกอบธุรกิจและผลักดันการพัฒนาของสถานประกอบการ ซึ่งช่วยให้ระบบกฎหมายเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของเวียดนามพัฒนามากขึ้นทั้งในด้านแนวคิดเกี่ยวกับการบริหารและการจัดทำนโยบาย ข้อมูลสถิติจากเว็บไซต์จัดสรรข้อมูลแห่งชาติเกี่ยวกับเอกสารและกฎหมายปรากฎว่า ถึงปลายเดือนพฤศจิกายนปี 2019 มีเอกสารเกือบ 270 ฉบับได้รับการประกาศ ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขในปีก่อนๆที่มีประมาณ 500-800 ฉบับ และมีมติ 91 ฉบับได้รับการประกาศ ซึ่งต่ำกว่าปี 2018ที่มี 155 ฉบับ

ปัจจัยชี้ขาดต่อประสิทธิภาพของระบบเศรษฐกิจ

ส่วนดัชนีขีดความสามารถในการแข่งขันในโลกหรือจีซีไอของเวียดนามได้เลื่อนขึ้น 10 อันดับมาอยู่อันดับที่ 67 และได้คะแนนเพิ่ม 3.5 คะแนนในปี 2019 ซึ่งเป็นประเทศที่มีคะแนนเพิ่มขึ้นมากที่สุดในโลก อันเป็นผลของความพยายามปฏิรูปบรรยากาศการประกอบธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของเวียดนาม โดยปัจจัยชี้ขาดคือการลดสายธุรกิจที่ต้องมีเงื่อนไขในการทำธุรกิจ นาย หวูเตี๊ยนหลก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามหรือวีซีซีไอแสดงความคิดเห็นว่า            “การปฏิรูประเบียบการยังเป็นพลังขับเคลื่อนที่รวดเร็วที่สุดและมีศักยภาพมากที่สุดสำหรับการขยายตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้น เราหวังว่า พรรคและรัฐจะผลักดันการปฏิรูประเบียบการต่างๆ โดยวีซีซีไอจะเป็นพลังขับเคลื่อนในกระบวนการนี้ต่อไป วีซีซีไอได้เสนอแผนการที่รอบคอบเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความซ้ำซ้อนของกฎหมายการประกอบธุรกิจและผลักดันการปฏิบัติแผนการลดเงื่อนไขการประกอบธุรกิจและระเบียบขั้นตอนราชการในการตรวจสอบและการปฏิรูปต่างๆเพื่อสร้างบรรยากาศที่อำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการ หวังว่า ก้าวกระโดดต่างๆนี้จะเป็นแรงจูงใจและเปิดโอกาสพัฒนาให้แก่สถานประกอบการ”

ในปี 2020 เวียดนามจะฟื้นฟูการขยายตัวของเศรษฐกิจให้อยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 7 ต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองตามยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจที่พรรคและรัฐเวียดนามวางไว้ ความพยายามปฏิรูประเบียบการต่างๆถือเป็นปัจจัยชี้ขาดเพื่อมีส่วนร่วมช่วยให้เวียดนามบรรลุเป้าหมายการพัฒนาประเทศที่วางไว้.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด