การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 เป็นโอกาสเพื่อสร้างสรรค์และเสริมสร้างความสามัคคีภายในพรรค

(VOVWORLD) - ในบทความล่าสุดที่พาดหัวว่า “การเตรียมความพร้อมและการจัดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯสมัยที่ 13 ด้วยความเรียบร้อย นำประเทศเข้าสู่ระยะพัฒนาใหม่” ท่าน เหงวียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศได้อ้างคำกล่าวของประธานโฮจิมินห์ที่ว่า “การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคจะช่วยเสริมสร้างความสามัคคีภายในพรรคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทำให้ความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ทั้งด้านแนวความคิดและการปฏิบัติยิ่งมั่นคงมากขึ้น” ซึ่งการสร้างสรรค์และเสริมสร้างกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติคือสิ่งที่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้ปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสมัยจัดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคทุกครั้ง

การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 เป็นโอกาสเพื่อสร้างสรรค์และเสริมสร้างความสามัคคีภายในพรรค - ảnh 1 ท่าน เหงวียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ (VGP)

 เมื่อวันที่ 3 เมษายนปี 1960 ซึ่งก่อนการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 3 หนังสือพิมพ์เยินเซิน หรือ ประชาชนได้ลงบทความของประธานโฮจิมินห์ที่พาดหัวว่า “วิธีการหารือเกี่ยวกับร่างธรรมนูญของพรรค" โดยระบุว่า "การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคมีความผูกพันกับอนาคตการปฏิวัติของพรรคและประชาชนเวียดนาม ซึ่งการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคจะช่วยเสริมสร้างความสามัคคีภายในพรรคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทำให้ความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ทั้งด้านแนวความคิดและการปฏิบัติยิ่งมั่นคงมากขึ้น ดังนั้น เจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคทุกคนต้องหารือเกี่ยวกับร่างโครงการต่างๆอย่างรอบครอบและแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผย จริงจังเพื่อค้ำประกันให้การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคประสบความสำเร็จ” ซึ่งตามความเห็นของรองศ.ดร. เหงวียนมิงต๊วน หัวหน้าสถาบันสร้างสรรค์พรรคสังกัดสถาบันรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์  คำสั่งสอนของประธานโฮจิมินห์ได้ชี้ชัดถึงความต้องการสร้างเสริมความสามัคคีและความเห็นพ้องต้องกันระหว่างสมาชิกพรรคในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคทุกครั้ง“นี่คือบทเรียนในการสร้างสรรค์พรรคที่ประธานโฮจิมินห์ได้สั่งสมไว้ “สามัคคี สามัคคี มหาสมัคคี ความสำเร็จ ความสำเร็จ ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นในการจัดประชุมสมัชชาใหญ่พรรคทุกสมัยก็ถือเป็นโอกาสเพื่อประเมินผลการปฏิบัติงานต่างๆและวางหน้าที่ในเวลาที่จะถึง ซึ่งด้วยจิตใจแห่งการหารือและการมองความจริงอย่างตรงไปตรงมา พูดแต่ความจริงเพื่อสามารถหาสาเหตุและมาตรการแก้ไขปัญหาต่างๆได้ ผมคิดว่า นี่เป็นทั้งโอกาสและเงื่อนไขและการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคถือเป็นโอกาสเพื่อธำรงและเสริมสร้างความสามัคคีภายในพรรคให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”

สำหรับการเตรียมความพร้อมและการจัดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรค ประธานโฮจิมินห์ได้ชี้ชัดว่า “ต้องส่งเสริมประชาธิปไตยอย่างจริงจังเพื่อให้สมาชิกพรรคทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างสมบูรณ์และต้องรวบรวมความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกคนเพื่อสนับสนุนการเตรียมพร้อมจัดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคเป็นอย่างดี” ซึ่งการชี้นำของท่านเกี่ยวกับการหารือในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคือหลักการขั้นพื้นฐานและเป็นบรรทัดฐานในการสร้างสรรค์พรรค มุ่งสู่การยกระดับคุณธรรมการปฏิวัติของสมาชิกพรรค ส่งเสริมความสมัคคีและปรับปรุงองค์กรพรรคสาขาให้มั่นคงและผลักดันการปฏิบัติหน้าที่ที่วางไว้ให้ลุล่วงไปด้วยดี ศ.ดร.โด๊ะกวางฮึงจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติฮานอยได้เผยว่า เจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคทุกคนต้องตระหนักได้ดีเกี่ยวกับการหารือและอภิปรายเพื่อบรรลุความเห็นพ้องกับทัศนะของพรรคที่ถูกระบุในเอกสารต่างๆ โดยเฉพาะงานด้านการสร้างสรรค์และปรับปรุงองค์กรพรรค การต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นและพฤติกรรมของการเสื่อมถอยในองค์กรพรรค“ประเด็นต่างๆที่ท่านเลขาธิการใหญ่พรรคได้นำเสนอสำหรับการประชุมสมัชชาใหญ่พรรค ได้แก่ต้องเน้นปรับปรุงแนวทางการจัดทำเอกสารต่างๆของพรรค ซึ่งมีความสำคัญต่อการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคทุกครั้ง ส่วนสำหรับการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 13 สิ่งนี้ยิ่งมีความหมายสำคัญเมื่อเวียดนามกำลังเข้าสู่ระยะพัฒนาใหม่ โดยเฉพาะบทความของเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเหงวียนฟู้จ่องได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับความมุ่งมั่นทางการเมืองของพรรค ผมหวังว่า ความมุ่งมั่นทางการเมืองดังกล่าวจะมีส่วนร่วมต่อความสำเร็จของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคครั้งนี้”

ความสามัคคีในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสะท้อนให้เห็นอย่างเด่นชัดจากงานด้านบุคลากรที่ต้องประเมินและคัดกรองบุคลากรที่มีคุณสมบัติเพรียบพร้อมให้ดำรงตำแหน่งต่างๆอย่างเหมาะสม ต้องคำนึงถึงการฝึกอมรมทางวิชาชีพ ทักษะความสามารถ จุดแข็ง ประสบการณ์และศักยภาพการพัฒนาบุคลากรในอนาคต โดยเฉพาะต้องมีความโปร่งใส เปิดเผย ความยุติธรรม ประชาธิปไตยและมีภาวะวิสัยในการคัดกรองบุคลากร ซึ่งทำให้ผู้บริหารหน่วยงานต่างๆต้องซื่อสัตย์สุจริต มีความยุติธรรมและตรงไปตรงมา นาย เหงวียนแทงบิ่ง รองอธิบดีกรมองค์กรและธรรมนูญพรรคสังกัดคณะกรรมการด้านบุคลากรส่วนกลางได้ยืนยันว่า“ต้องเตรียมพร้อมงานด้านบุคลากรให้แก่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคอย่างจริงจังซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพราะส่งผลกระทบต่อการสร้างสรรค์และการเลือกตั้งบุคลากรที่ดำรงตำแหน่งต่างๆในวาระ 5ปี ดังนั้นจึงต้องเตรียมพร้อมงานด้านบุคลากรอย่างรอบคอบ ปฏิบัติขั้นตอนต่างๆตามกำหนด ค้ำประกันประชาธิปไตย ความยุติธรรม มีภาวะวิสัย มีความโปร่งใส รวมทั้งทำการตรวจสอบเพื่อคัดกรองบุคลากรที่มีคุณสมบัติเพรียบพร้อมทั้งด้านความสามารถและคุณธรรมเข้าร่วมคณะกรรมการพรรคสาขาระดับจังหวัดและนคร ยืนหยัดต่อต้านและขจัดบุคคลที่ใช้ระบบเส้นสาย การใช้เงินซื้อตำแหน่ง ต่อต้านการเลือกหรือเสนอชื่อบุคคลที่ไม่ได้รับความไว้วางใจให้เข้าเป็นสมาชิกในคณะบริหารองค์กรพรรค”

ทั้งนี้และทั้งนั้นแสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่สมาชิกพรรคและประชาชนเห็นด้วยกับทัศนะต่างๆที่ถูกระบุในบทความของเลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเหงวียนฟู้จ่องเกี่ยวกับการเตรียมจัดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯสมัยที่ 13 ด้วยความเรียบร้อย ซึ่งการปฏิบัติตามหลักการและขั้นตอนต่างๆอย่างมีภาวะวิสัยและมีความยุติธรรมเพื่อคัดกรองบุคลากรที่มีคุณสมบัติเพรียบพร้อมทั้งด้านความสามารถและคุณธรรมให้เข้ามาทำงานในหน่วยงานบริหารของพรรคเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างความสามัคคีภายในพรรค ควบคู่กันนั้น การบรรลุความเห็นพ้องเกี่ยวกับแนวความคิดในการชี้นำที่ถูกระบุในเอกสารและมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคจะช่วยสร้างพื้นฐานความเป็นเอกภาพในการปฏิบัติเพื่อมีส่วนร่วมสร้างสรรค์และเสริมสร้างกลุ่มมหาสามัคคีภายในองค์กรพรรค.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด