การแข่งขันรักชาติตามแนวคิดของประธานโฮจิมินห์

(VOV) - วันที่ 11 มิถุนายนเมื่อ 64 ปีก่อน ประธานโฮจิมินห์ได้เปิดการรณรงค์ “การแข่งขันรักชาติ”เพื่อเรียกร้องให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าร่วมสงครามกู้ ชาติและสร้างสรรค์ประเทศ ซึ่งจนถึงปัจจุบันการแข่งขันรักชาติยังคงเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่ประชาชนใน การสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศต่อไป 
(VOV) - วันที่ 11 มิถุนายนเมื่อ 64 ปีก่อน ประธานโฮจิมินห์ได้เปิดการรณรงค์ “การแข่งขันรักชาติ”เพื่อเรียกร้องให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าร่วมสงครามกู้ชาติและสร้างสรรค์ประเทศ ซึ่งจนถึงปัจจุบันการแข่งขันรักชาติยังคงเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่ประชาชนในการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศต่อไป  

การแข่งขันรักชาติตามแนวคิดของประธานโฮจิมินห์ - ảnh 1
ประธานโฮจิมินห์กับบุคคลดีเด่นในการแข่งขันรักชาติ (Internet)

จุดเด่นในแนวความคิดของประธานโฮจิมินห์เกี่ยวกับการแข่งขันรักชาติคือ ท่านได้ระบุอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความผูกพันธ์อย่างใกล้ชิดระหว่างการแข่งขันกับความรักชาติของประชาชนเวียดนาม ซึ่งยืนยันว่า “ การแข่งขันคือการรักชาติ ถ้าหากรักชาติจะต้องมีการแข่งขัน ผู้ที่แข่งขันเป็นผู้รักชาติที่สุด”  เพื่อขานรับการรณรงค์ดังกล่าว ในตลอด 64 ปีที่ผ่านมา การแข่งขันรักชาติในเวียดนามได้มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งมีขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีขอบเขตที่กว้างขวาง จากกระบวนการแข่งขันในอดีต เช่น “ กระบวนการแก้ไขปัญหาความหิวโหย ความไม่รู้หนังสือและการต่อสู้ศัตรู”และกระบวนการ “ไหข้าวสารเพื่อการต่อสู้กู้ชาติ” ไปจนถึงกระบวนการแข่งขันต่างๆในปัจจุบัน เช่น “เยาวชนอาสาทำการพัฒนาและปกป้องปิตุภูมิ” และ “ทั้งประเทศร่วมมือกันพัฒนาชนบทใหม่” เป็นต้น  ซึ่งไม่เพียงแต่ได้รับการขานรับจากประชาชนทั่วประเทศเท่านั้น หากยังทำให้เกิดคณะและบุคคลดีเด่นในการฟันฝ่าอุปสรรค มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิดกล้าทำและมีส่วนร่วมต่อผลสำเร็จของการปฏิบัติยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมใน 10 ปีที่ผ่านมาและการปฏิบัติมติการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 10   รองศาสตรจารย์ ดร. Tran Minh Truong หัวหน้าสถาบันโฮจิมินห์และบรรดาหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้กล่าวยืนยันว่า ผลสำเร็จเหล่านี้มาจากการใช้วิธีการแข่งขันตามแนวความคิดของประธานโฮจิมินห์  “ประธานโฮจิมินห์ได้กล่าวย้ำว่า ในการแข่งขัน ต้องตั้งเป้าหมายให้สอดคล้องกับแต่ละบุคคลและแต่ละหน่วยงาน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากเป็นยุวชน ท่านบอกว่าต้องแข่งขันตามความแข็งแรงของตนเอง ส่วนกรรมกรและเกษตรกรจะต้องแข่งขันในการผลิตและการปลูกข้าว แต่ละคนต่างมีภารกิจของตนเองและถ้าหากเสร็จสิ้นภารกิจนั้น ก็หมายความว่า เป็นการแข่งขันไปแล้ว ซึ่งจะมีส่วนร่วมต่อผลสำเร็จของภารกิจการปฏิวัติ

            ส่วนนาง Ma Thi Nguyet รองประธานคณะกรรมการประชาชนจ. Thai Nguyen - ท้องถิ่นนำหน้าในการแข่งขันและเป็นสถานที่ที่ประธานโฮจิมินห์ได้ประกาศเปิดการรณรงค์ดังกล่าวเมื่อ 64 ปีก่อนเผยว่า  “การแข่งขันเป็นหน้าที่ของทั้งระบบการเมือง โดยเฉพาะต้องมีการเข้าร่วมของประชาชน ส่วนการเปิดการแข่งขันนั้นต้องมีความเชื่อมโยงกับหน้าที่ทางการเมือง หน้าที่ของท้องถิ่นและหน่วยงานแต่ละแห่งเพื่อให้การตั้งมาตรฐานของการแข่งขันนั้นมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น เพิ่มการตรวจสอบและเร่งรัดให้มีการแข่งขันขึ้นอย่างคึกคักตลอดจนให้ความสนใจต่อการพัฒนาและขยายแบบอย่างที่ดีเด่นให้กว้างขวางต่อไป

การแข่งขันรักชาติตามแนวคิดของประธานโฮจิมินห์ - ảnh 2
Thai Nguyen - ท้องถิ่นนำหน้าในการแข่งขัน (Internet)

เกี่ยวกับการใช้แนวความคิดของประธานโฮจิมินห์ในการแข่งขันรักชาติในยุคปัจจุบัน รองศาสตรอาจารย์ ดร. Nguyen The Thang คณบดีวิชาการศึกษาแนวความคิดโฮจิมินห์ สังกัดสถาบันการเมืองแห่งชาตินครโฮจิมินห์ได้เสนอว่า ต้องให้ความสนใจต่อการชมเชยและการลงโทษอย่างถูกต้องเพื่อสร้างบรรยากาศการแข่งขันที่โปร่งใสและมีความยุติธรรม “การชมเชยอย่างทันกาลในการแข่งขันเป็นปัจจัยที่ช่วยให้กระบวนการแข่งขันพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ถ้าหากการคัดเลือกไม่มีความยุติธรรม ไม่เป็นประชาธิปไตยและไม่เปิดเผยก็จะส่งผลเสียต่อกระบวนการและจะทำให้ทุกคนไม่อยากเข้าร่วมกระบวนการแข่งขันต่อไป ดังคำโอวาทของประธานโฮจิมินห์ที่ว่า การทำการปฏิวัติคือภารกิจของประชาชนทุกชั้นชน ดังนั้นในการแข่งขันต้องให้ความสนใจต่อผู้ผลิตโดยตรงและผู้ใช้แรงงาน จึงจะสามารถขยายขอบเขตและดึงดูดการเข้าร่วมของประชาชนได้มากยิ่งขึ้น

ผลสำเร็จในกระบวนการแข่งขันรักชาติต่างๆในตลอด 64 ปีที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นว่า แนวความคิดของประธานโฮจิมินห์เกี่ยวกับเรื่องนี้ยังคงมีคุณค่าต่อไป นั่นคือการปฏิวัติยิ่งลำบากยิ่งต้องจัดกระบวนการแข่งขันต่างๆเพื่อระดมพลังจากประชาชน ส่วนในการพัฒนาและปกป้องประเทศในระยะปัจจุบัน ในขณะที่ชาวเวียดนามยังคงศึกษาและปฏิบัติตามแบบอย่างคุณธรรมของประธานโฮจิมินห์ การแข่งขันรักชาติจึงไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความรักชาติเท่านั้น หากยังเป็นการศึกษาและปฏิบัติตามแบบอย่างคุณธรรมของประธานโฮจิมินห์อย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด