ตามรายงานของสาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้ยิงขีปนาวุธนำวิถีอย่างน้อยหนึ่งลูกเมื่อเช้าวันที่ 5 มิถุนายน (Arirang)

"ความตึงเครียดที่รุนแรง" หรือ "ความตึงเครียดสูง" เป็นวลีที่ใช้โดยบรรดาสื่อและนักวิเคราะห์ในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือเพื่ออธิบายสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

การเคลื่อนไหวที่ต้องกังวล

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน กองทัพสหรัฐและสาธารณรัฐเกาหลีได้จัดการซ้อมรบทางอากาศที่บริเวณเขตทะเลเหลือง โดยมีเครื่องบินรบประมาณ 20 ลำ รวมทั้งเครื่องบินรบรุ่นใหม่หลายลำ เช่น F-35 เข้าร่วม นี่เป็นการซ้อมรบครั้งที่ 3 ภายในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ของสหรัฐและสาธารณรัฐเกาหลีบนคาบสมุทรเกาหลี ก่อนหน้านั้น สหรัฐและสาธารณรัฐเกาหลีได้ทำการซ้อมรบเป็นเวลา 3 วันซึ่งเสร็จสิ้นลงในวันที่ 4 มิถุนายน โดยมีเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Ronald Reagan เข้าร่วมเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 ต่อจากนั้น เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน กองทัพสหรัฐและสาธารณรัฐเกาหลีได้ซ้อมรบร่วมโดยใช้กระสุนจริงในทะเล รวมถึงการยิงขีปนาวุธ 8 ลูก

การซ้อมรบครั้งล่าสุดของพันธมิตรสหรัฐ-สาธารณรัฐเกาหลีถูกมองว่าเป็นการตอบโต้การที่เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 8 ลูกตกในเขตทะเลญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการยิงขีปนาวุธครั้งที่ 18 ในปี 2022 ของทางการเปียงยาง นอกจากการทดลองยิงขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีปพิสัยไกลครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลียังได้มีการประกาศที่แข็งกร้าวต่อสหรัฐและสาธารณรัฐเกาหลี โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีประจำสหประชาชาติ Han Tae-song กล่าวว่า "สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลียังคงอยู่ในภาวะสงครามกับสหรัฐ"

เพื่อตอบโต้ท่าทีของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน นาย เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า การทดลองยิงขีปนาวุธของเปียงยางเป็น “ภัยคุกคามต่อประเทศเพื่อนบ้านของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีรวมถึงประชาคมระหว่างประเทศ” อีกทั้ง เตือนว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีอาจทำการทดลองยิงขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ "ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า"

ในขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี Yoon Suk-yeol ได้สั่งให้กองทัพตั้งอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมและประสานการป้องกันร่วมกับสหรัฐ รวมถึงการฝึกซ้อมป้องกันขีปนาวุธ ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น Kishi Nobuo กล่าวว่า การยิงขีปนาวุธของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้

สหรัฐและสาธารณรัฐเกาหลียิงขีปนาวุธร่วม ณ สถานที่ที่ไม่ระบุรายละเอียดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน (Yonhap)

ยึดมั่นการเจรจา

ตามความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์ในภูมิภาคและโลก ในสภาวการณ์ที่การปะทะระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังไม่มีสัญญาณที่จะยุติลง สถานการณ์ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีกำลังสร้างความท้าทายต่อความพยายามธำรงสันติภาพและเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ในโลกมากขึ้น ดังนั้น การส่งเสริมการเจรจาและการพบปะทางการทูตระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในสภาวการณ์ปัจจุบันเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง

ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เน็ด ไพรซ์ ได้ยืนยันว่า ประตูสู่การเจรจากับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลียังคงเปิดอยู่ และวอชิงตันยังคงเรียกร้องให้เปียงยางเข้าร่วมการเจรจาเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายของการปลอดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี ก่อนหน้านั้น การประชุมไตรภาคีระหว่างทูตพิเศษด้านนิวเคลียร์ของสาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่นและสหรัฐที่กรุงโซลเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนก็ได้มีการส่งสัญญาณที่คล้ายคลึงกันในการเรียกร้องให้สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเข้าร่วมการเจรจาเพื่อบรรลุการปลอดนิวเคลียร์และนำสันติภาพมาสู่คาบสมุทรเกาหลี

สำหรับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ถึงแม้จะยืนยันว่า ประเทศยังคงอยู่ในภาวะสงครามกับสหรัฐ แต่เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยเกาหลีประจำสหประชาชาติ Han Tae-song ได้ย้ำว่า เปียงยางให้คำมั่นที่จะมีส่วนร่วมต่อสันติภาพและการปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในทั่วโลก.