จุดเริ่มต้นของจิตใจแห่งการรวมพลังและความสามัคคีของประชาชาติเวียดนาม

(VOVWORLD) - ประชาชนเวียดนามได้ร่วมใจมุ่งสู่งานบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่งที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันที่ 10 เดือน 3 ตามจันทรคติ ในมรดกวัฒนธรรมของประชาชาติเวียดนาม วิหารหุ่งและวันสักการะบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งคือสัญลักษณ์ของจิตใจแห่งความรักชาติและพลังที่เข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ โดยงานบวงสรวงสักการะบรรพกษัตริย์หุ่งทุกปีคือวันงานที่สำคัญ สะท้อนเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่โดดเด่นและคติประจำใจของชาติเวียดนามคือ “ดื่มน้ำต้องรำลึกถึงแหล่งที่มาของน้ำ” อีกทั้งแสดงให้เห็นถึงความสำนึกในบุญคุณต่อบรรพกษัตริย์หุ่งที่มีคุณูปการในการสร้างชาติและปกป้องบ้านเมือง
จุดเริ่มต้นของจิตใจแห่งการรวมพลังและความสามัคคีของประชาชาติเวียดนาม - ảnh 1คณะผู้แทนที่เข้าร่วมงานบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่งปี 2021 (laodong.vn)

ตั้งแต่โบราณกาล ชาวเวียดนามได้สร้างวิหารบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งที่ภูเขาเหงียหลิงใน ตำบลฮีเกือง เมืองเหวียดจี่ จังหวัดฟู้เถาะ รวมทั้งมีศาลาและวิหารอีกหลายแห่งที่บูชาบรรพกษัตริย์หุ่งและนายพลในสมัยบรรพกษัตริย์หุ่งทั้งในจังหวัดฟู้เถาะและในท้องถิ่นหลายแห่งทั่วประเทศ

ในพิธีบวงสรวงสักการะบรรพกษัตริย์หุ่งทุกปี ประชาชนเวียดนามหลายล้านคน ซึ่งมีรากเหง้าและสายเลือดเดียวกันคือเป็นลูกหลานของพญามังกรและนางฟ้าที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็จะมุ่งใจสู่ผืนดินแห่งรากเหง้าและเดินทางไปวิหารหุ่งเพื่อแสดงความสำนึกในคุณูปการของบรรพกษัตริย์หุ่งและจุดธูปขอพรให้ประเทศสงบสุข เจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดีและมีความสุข

หลังจากประเทศมีเอกราช พรรค รัฐและประชาชนเวียดนามได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการสักการะบูชาบรรพกษัตริย์หุ่ง ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของประชาชาติเวียดนาม โดยได้บูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถานวิหารหุ่งให้สมกับการเป็นสถานที่บูชาบรรพบุรุษของประชาชาติ

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ปี 1946 ประธานโฮจิมินห์ได้ลงนามในกฤษฎีกาที่ 22 ให้วันสักการะบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งเป็นวันหยุดราชการ โดยในงานบวงสรวงสักการะบรรพกษัตริย์หุ่งปี 1946 ซึ่งเป็นปีแรกที่รัฐบาลชุดใหม่ของเวียดนามได้รับการก่อตั้ง นาย หวิ่งทุกค้าง รักษาการประธานประเทศได้เข้าร่วมพิธีบวงสรวงบรรพกษัตริย์หุ่งพร้อมถวายแผนที่ประเทศเวียดนามและดาบ 1 เล่มและขอพรให้ประเทศสงบสุข เจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดี และสามัคคีในการต่อต้านศัตรูผู้รุกราน ปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศ

ต่อมาเมื่อวันที่ 19 กันยายนปี 1954 หลังจากเวียดนามมีชัยในสงครามต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศส ประธานโฮจิมินห์ได้ไปเยือนวิหารหุ่ง โดยได้พบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทหารของหน่วยทหารเตียนฟองก่อนเดินทางเข้ารับอำนาจการควบคุมกรุงฮานอยและกำชับว่า “บรรพกษัตริย์หุ่งมีคุณูปการในการสร้างชาติ เราทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจรักษาชาติให้มั่นคง”

เมื่อวันที่ 2 เมษายน ปี 2007 สภาแห่งชาติประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามได้อนุมัติการแก้ไขและเพิ่มเติมมาตรา 73 ของกฎหมายแรงงานให้ผู้ใช้แรงงานได้หยุดงานในงานบวงสรวงสักการะบรรพกษัตริย์หุ่ง โดยยังคงได้รับค่าจ้างตามปกติเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมมุ่งใจสู่รากเหง้าและเสริมสร้างกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติในภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ

จุดเริ่มต้นของจิตใจแห่งการรวมพลังและความสามัคคีของประชาชาติเวียดนาม - ảnh 2พิธีแห่ขนมแบ๊งจึงและขนมแบ๊งใหญ่ในงาน  (laodong.vn)

ปัจจุบัน งานบวงสรวงสักการะบรรพกษัตริย์หุ่งคือวันงานสำคัญของประชาชนทั่วประเทศ โดยรัฐบาลได้กำหนดรูปแบบและพิธีจัดงานบวงสรวงสักการะบรรพกษัตริย์หุ่ง ส่วนกระทรวงวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวได้จัดทำเอกสารแนะนำประเพณีบวงสรวงสักการะบรรพกษัตริย์หุ่งและวิธีจัดงานที่โบราณสถานวิหารหุ่งในจังหวัดฟู้เถาะ วิหารบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งในจังหวัดและนครสังกัดส่วนกลางและในท้องถิ่นที่ไม่มีวิหารบูชาบรรพกษัตริย์หุ่ง ซึ่งรวมถึงสิ่งของเซ่นไหว้ ชุดแต่งกายของศิลปินและผู้เข้าร่วมงานและดนตรีประกอบในพิธีจุดธูปเพื่อรำลึกถึงบรรพกษัตริย์หุ่ง เป็นต้น

ส่วนในการประชุมครั้งที่ 7 ขององค์การยูเนสโกเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมปี 2012 ด้วยเสียงสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์ 24 เสียง ยูเนสโกได้อนุมัติให้พิธีบวงสรวงสักการะบรรพกษัตริย์หุ่งที่จังหวัดฟู้เถาะเป็นมรดกวัฒนธรรมนามธรรมของมนุษยชาติ นี่เป็นกิจกรรมที่มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อประชาชาติเวียดนามในการยกย่องคุณค่าของประเพณีสักการะบูชาบรรพกษัตริย์หุ่งซึ่งเป็นบรรพบุรุษของประชาชาติเวียดนามในระดับโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังที่เข้มแข็งของความสามัคคีชนในชาติในกระบวนการต่อสู้เพื่อสร้างชาติและปกป้องบ้านเมืองของประชาชาติเวียดนามในประวัติศาสตร์นับพันปี

ในงานบวงสรวงสักการะบรรพกษัตริย์หุ่งทุกปี ประชาชนเวียดนามจากทั่วประเทศต่างมุ่งใจสู่วิหารหุ่ง จุดธูปสักการะแสดงความสำนึกในคุณูปการของบรรพกษัตริย์หุ่งและบรรพบุรุษในการสร้างชาติและสะท้อนให้เห็นถึงรากเหง้าของประชาชาติเวียดนามที่มีบรรพบุรุษเดียวกัน ซึ่งนี่เป็นโอกาสให้ประชาชนเวียดนามเสริมสร้างความสามัคคีที่แน่นแฟ้นเพื่อสานต่อเกียรติประวัติและเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่ดีงามของประชาชาติเวียดนาม.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด