การปฏิบัติรูปแบบการปกครองท้องถิ่น 2 ระดับใน 34 จังหวัดและนครคือก้าวเดินสำคัญในการปรับปรุงระเบียบกลไกและปรับโครงสร้างองค์กรบริหารราชการในระบบให้กระทัดรัดและดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับการปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียง ครบถ้วน รอบด้านตั้งแต่การปรับปรุงระเบียบกลไก นโยบายและการประกาศใช้มติที่แนะนำการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมในท้องถิ่นและองค์กรต่างๆ

การดำเนินการรูปแบบการปกครองใหม่อย่างราบรื่นในเบื้องต้น

จุดมุ่งหมายในการสร้างสรรค์รูปแบบการปกครองท้องถิ่น 2 ระดับคือการปรับโครงสร้างองค์กรบริหารราชการในระบบให้กระทัดรัด ลดความซ้ำซ้อน ยกระดับประสิทธิภาพการบริหารและลดช่องว่างระหว่างทางการปกครองกับประชาชน ซึ่งเป็นการปฏิรูปเชิงลึกและรอบด้านในการปรับโครงสร้างองค์กรบริหารระดับท้องถิ่นในตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ภายหลังการปฏิบัติมาเป็นเวลา 4 เดือน รูปแบบการปกครองท้องถิ่น 2 ระดับได้ดำเนินการอย่างราบรื่น มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาต่างๆในการทำระเบียบราชการให้แก่ประชาชนและสถานประกอบการ เช่น ลดเวลาทำระเบียบราชการ มีการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ อย่างใกล้ชิด ค้ำประกันงานด้านกลาโหมและความมั่นคงในท้องถิ่น สิ่งที่น่าสนใจคือเจ้าหน้าที่ข้าราชการเดินหน้าช่วยเหลือประชาชนและสถานประกอบการในการทำระเบียบราชการมากขึ้น โดยในการประชุมครั้งที่ 10 สภาแห่งชาติสมัยที่ 15 รองนายกรัฐมนตรีฝ่ามถิแทงจ่า ได้ชี้ชัดว่า รูปแบบการปกครองใหม่มีการปรับเปลี่ยนจากการบริหารราชการมาเป็นธรรมาภิบาลอย่างสร้างสรรค์เพื่อรับใช้ประชาชน เดินหน้าธรรมาภิบาลท้องถิ่นเพื่อเป้าหมายสูงสุดคือพัฒนาประเทศและความผาสุกของประชาชน

“นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงในรอบด้านอย่างเคร่งครัด ส่งผลต่อการชี้นำการกระจายอำนาจ กลไก วิธีการบริหาร แนวความคิดเกี่ยวกับโครงสร้างองค์กร บุคลากร ธรรมาภิบาลและเป้าหมายการพัฒนาเพื่อตอบสนองสถานการณ์ที่เป็นจริง สอดคล้องกับแนวโน้มโลกเพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศในระยะใหม่”

เป็นพื้นฐานให้แก่แนวทางการปฏิบัติในระยะต่อไป

ถึงแม้เวียดนามได้ประสบผลที่น่ายินดีในเบื้องต้นในการปฏิบัติรูปแบบการปกครองท้องถิ่น 2 ระดับ แต่ก็ต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งแนวความคิดและวิธีปฏิบัติธรรมาภิบาล ซึ่งก็ประสบความยากลำบากและปัญหาต่างๆในการปฏิบัติ เช่น ปัญหาด้านบุคลากร การเชื่อมต่อระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการกำหนดความรับผิดชอบ โดยรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ามถิแทงจ่าได้เผยว่า รัฐบาลจะเน้นชี้นำการปฏิบัติ 6 กลุ่มมาตรการสำคัญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของรูปแบบการปกครองท้องถิ่น 2 ระดับ

“ต้องปรับปรุงระบบกลไกและนโยบาย โดยสภาแห่งชาติได้ประกาศใช้กฎหมาย 34 ฉบับในการประชุมครั้งก่อนและจะประกาศใช้กฎหมายอีก 49 ฉบับในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งเป็นเอกสารกฎหมายที่สำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการ ควบคู่กันนั้น รัฐบาลจะชี้นำการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร การประเมิน มาตรฐานขององค์กรบริหารราชการเพื่อปรับปรุงระบบกลไกให้มีความสมบูรณ์ในขั้นพื้นฐานภายในปี2025”

รัฐบาลจะสร้างสรรค์แถวขบวนเจ้าหน้าที่ข้าราชการและพนักงานราชการที่ตอบสนองความต้องการของรูปแบบการปกครองท้องถิ่น 2 ระดับ โดยเฉพาะระดับตำบล ซึ่งปัจจุบันจำนวนเจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับตำบลเฉลี่ยอยู่ที่ 41 คน โดยอัตราผู้ที่มีวุฒิการศึกษาไม่เหมาะกับตำแหน่งงานอยู่ที่แค่ร้อยละ 5.38 เจ้าหน้าที่บางส่วนยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของงานที่ทำ ซึ่งเพื่อแก้ไขปัญหานี้ รัฐบาลได้ชี้นำให้กระทรวงกิจการภายในเร่งปรับปรุงกรอบตำแหน่งงานระดับตำบลและเงื่อนไขสำหรับการรับสมัครบุคคลเพื่อเป็นข้าราชการในช่วงปี 2026-2030 ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทบทวนและเพิ่มเติมแผนการพัฒนาระดับท้องถิ่น เพิ่มแหล่งพลัง กลไกการเงินที่สอดคล้องกับรูปแบบการปกครองท้องถิ่น 2 ระดับ ผลักดันการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล การใช้ AI ในการดำเนินการขององค์กรบริหารราชการ การสร้างสรรค์ทางการปกครองอิเล็กทรอนิกส์ ทางการปกครองดิจิทัล ปฏิบัติขบวนการ “เผยแพร่และส่งเสริมการเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัล”สำหรับประชาชนทุกคน

ทั้งนี้ การปฏิบัติรูปแบบการปกครองท้องถิ่น 2 ระดับมาเป็นเวลา 4 เดือนแสดงให้เห็นว่า มีการปรับโครงสร้างองค์กรในระบบให้กระทัดรัด คล่องตัวและมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากขึ้นดั่งคำยืนยันของเลขาธิการใหญ่พรรคโตเลิม ในการประชุมครั้งที่ 14 คณะกรรมการกลางพรรคสมัยที่ 13 เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนว่า รูปแบบการปกครองท้องถิ่น 2 ระดับและสภาพแวดล้อมการพัฒนาใหม่จะเป็นพลังขับเคลื่อนสำหรับกลไก แปรแหล่งพลังให้เป็นแรงกระตุ้น แปรศักยภาพให้เป็นการเติบโตในระดับสูงและยั่งยืน มีส่วนร่วมปฏิบัติเป้าหมายครบรอบ 100 ปีการสถาปนาประเทศท่ามกลางโครงสร้างระเบียบในภูมิภาคและโลกที่มีความผันผวนต่างๆ.