ในการพบปะนี้นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่าผลสำเร็จของภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่และพัฒนาประเทศปัจจุบันมีส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่และเป็นรูปธรรมของกองกำลังปัญญาชนและนักวิทยาศาสตร์เวียดนาม ซึ่งพรรคและรัฐได้ให้ความสำคัญต่อบทบาทของกองกำลังนี้เสมอ
ปรารถนาให้ปัญญาชนมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาประเทศ
ปี2019 รัฐบาลเวียดนามได้เสนอแนวทางการปฏิบัติ “มีระเบียบ ซื่อสัตย์บริสุทธิ์ ปฏิบัติ สร้างสรรค์ มีก้าวกระโดดและมีประสิทธิภาพ” โดยตั้งใจสร้างก้าวกระโดดทั้งด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาในเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีแสดงความเห็นว่า เพื่อให้เวียดนามพัฒนารวดเร็วและยั่งยืนต้องรู้จักส่งเสริมแหล่งพลังปัญญาชน ปลุกเร้าจิตใจแห่งความสร้างสรรค์ของคนเวียดนาม นี่คือความท้าทายแต่ในขณะเดียวกันก็ถือเป็นโอกาสให้ผู้ที่ทำงานในภาควิทยาศาสตร์เทคโนโลยีมีส่วนร่วมมากขึ้นต่อการพัฒนาประเทศ
“ทุกท่านต่างกล่าวถึงความปรารถนาอันแรงกล้าและเราก็อยากกล่าวแบบชัดๆกันว่านั่นคือความปรารถนาที่ต้องนำประเทศพัฒนาเจริญเข้มแข็งด้วยการใช้โอกาสและพลังแห่งยุคสมัย พยายามแก้ไขข้อจำกัดให้มีประสิทธิผล ร่วมแรงร่วมใจในภารกิจต่างๆของพรรค รัฐและประชาชน โดยการเข้าร่วมด้วยความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบสูงของบรรดาปัญญาชน ผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์นั้นมีบทบาทสำคัญมากเพื่อเป้าหมายถึงปี2045 เวียดนามพัฒนาเป็นประเทศที่มีรายได้สูง ซึ่งนับเป็นเป้าหมายร่วมของทั้งประเทศรวมทั้งปัญญาชนเวียดนาม”
โดยนายกรัฐมนตรีปรารถนาให้กระบวนการปัญญาชนและนักวิทยาศาสตร์เวียดนามให้ความสนใจต่อการแก้ปัญหาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงด้านพลังงาน การดูแลสุขภาพของมนุษย์ การพัฒนาการเกษตรและชนบท วิทยาศาสตร์การบริหารเพื่อการพัฒนาเป็นต้น
สร้างกลไกระเบียบการเพื่อส่งเสริมการพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
ในการพบปะดังกล่าว บรรดานักวิทยาศาสตร์ได้ชื่นการที่พรรคและรัฐให้ความสำคัญต่อบทบาทของปัญญาชนและนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นผ่านกิจกรรมที่เป็นรูปธรรมต่างๆรวมทั้งการที่นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้มีการพบปะสนทนากับบรรดาปัญญาชนอย่างต่อเนื่องซึ่งช่วยสร้างกำลังใจให้ทุกคนพยายามมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีได้เห็นพ้องกับความเห็นต่างๆที่ว่าเพื่อให้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีพัฒนาจะต้องมีกลไกระเบียบการและกฎหมายรองรับที่ดี ปัจจุบันนโยบายด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะต่อภาควิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของเวียดนามยังมีข้อจำกัดหลายส่วนที่รัฐบาลต้องปรับปรุงแก้ไขเพื่อเอื้อให้หน่วยงานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีพัฒนา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า
“ผมเห็นด้วยกับความคิดของนักวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่งที่เสนอในวันนี้คือ ศ.ดร.300คนที่เป็นตัวแทนของปัญญาชนกว่า4ล้านคนเข้าร่วมในการพบปะหากแต่ละคนเสนอความเห็นเพื่อการพัฒนาประเทศเพียง1หน้ากระดาษก็เป็นการระดมภูมิปัญญาเวียดนามได้หลากหลายมิติหลากหลายหน่วยงานที่แต่ละคนได้ทุ่มเทศึกษาวิจัยมานาน ซึ่งผมเองก็จะพยายามสงวนเวลาเพื่อตั้งใจรับฟังความคิดเห็นของนักวิทยาศาสตร์เพื่อให้กลไกนโยบายที่ออกมามีความคลอบคลุมและสอดคล้องกับสถานการณ์การพัฒนาประเทศในทุกด้าน”
สุดท้าย นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า กระบวนการปัญญาชนทั้งในและต่างประเทศกำลังพัฒนา อย่างเข้มแข็ง ซึ่งถือเป็นศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ที่ใช่ว่าประเทศใดจะมีเหมือน ดังนั้นพรรคและรัฐเวียดนามมีความประสงค์ที่จะใช้ศักยภาพนี้อย่างเต็มที่เพื่อสร้างเป็นพลังอันแข็งแกร่งเพื่อการพัฒนาประเทศ ยกระดับสถานะของเวียดนามและเสริมสร้างความภาคภูมิใจในชาติอย่างยั่งยืน.