ไม่สามารถทำลายความไว้วางใจระหว่างฝ่ายต่างๆในภูมิภาคได้อีก

(VOVWORLD) - การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียนและการประชุมต่างๆที่เกี่ยวข้อง ที่ กรุงเทพฯได้เสร็จสิ้นลงเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนอกจากปัญหาร้อนระอุในภูมิภาค ปัญหาทะเลตะวันออกก็ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม ซึ่งประเทศต่างๆได้เห็นพ้องและสนับสนุนบทปราศรัยในเชิงสร้างสรรค์ เข้มแข็งและตรงไปตรงมาเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวของนาย ฝ่ามบิ่งมิง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามในการประชุมครั้งนี้
ไม่สามารถทำลายความไว้วางใจระหว่างฝ่ายต่างๆในภูมิภาคได้อีก - ảnh 1ภาพการประชุม (VNA) 

ปัญหาทะเลตะวันออกคือประเด็นที่ได้รับการหารือในการประชุมอาเซียน โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่กลุ่มเรือสำรวจไหหยาง 8 ของจีนได้มีปฏิบัติการที่รุกล้ำเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลและไหล่ทวีปของเวียดนามในทะเลตะวันออก ซึ่งละเมิดอธิปไตยและสิทธิอธิปไตยของเวียดนามอย่างรุนแรง

 ความชอบธรรมของเวียดนาม

การกระทำดังกล่าวของกลุ่มเรือสำรวจไหหยาง 8 ของจีนเป็นการละเมิดเขตเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเลและไหล่ทวีปของเวียดนามในทะเลตะวันออก รวมทั้งอธิปไตยของเวียดนามอย่างอุกอาจ โดยไม่สนใจต่อการประณามของประเทศต่างๆในภูมิภาคและโลก ซึ่งเวียดนามมีสิทธิ์ปฏิบัติมาตรการต่างๆอย่างเข้มแข็งและปกป้องอธิปไตยบนเจตนารมณ์แห่งสันติภาพ โดยในการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียนและการประชุมต่างๆที่เกี่ยวข้องครั้งนี้ ณ กรุงเทพฯ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝ่ามบิ่งมิงได้ยืนยันว่า ปฏิบัติการของจีนในทะเลตะวันออกนับวันมีความรุนแรงมากขึ้น ทำลายความไว้วางใจ ทำให้สถานการณ์มีความตึงเครียดมากขึ้นและส่งผลกระทบโดยตรงต่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง การเดินเรือและการบินอย่างเสรี รวมทั้งความปลอดภัยในทะเลตะวันออก ซึ่งละเมิดแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการปฏิบัติของฝ่ายต่างๆในทะเลตะวันออก หรือ ดีโอซี เดินสวนคำมั่นที่จะธำรงบรรยากาศที่เอื้อให้แก่การเจรจาร่างหลักปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือซีโอซี เวียดนามเรียกร้องให้อาเซียนธำรงความสามัคคีและมีเสียงพูดเดียวกัน พร้อมทั้งยืนยันอีกครั้งถึงหลักการและคำมั่นต่อสันติภาพ เสถียรภาพ เรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆใช้ความอดกลั้น ไม่มีปฏิบัติการเพียงฝ่ายเดียวที่ส่งผลกระทบในทางลบต่อกระบวนการสนทนาและความร่วมมือในภูมิภาค ขัดขวางกิจกรรมพัฒนาเศรษฐกิจที่ชอบด้วยกฎหมายของประเทศริมฝั่งทะเลและความพยายามจัดทำซีโอซีอย่างมีประสิทธิภาพและจริงจัง

การปกป้องอธิปไตยในเชิงสร้างสรรค์ เข้มแข็งและตรงไปตรงมาของเวียดนามได้รับการสนับสนุนจากประเทศต่างๆทั้งในและนอกภูมิภาค โดยบรรดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียนได้ออกแถลงการณ์ร่วมที่เรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆหลีกเลี่ยงปฏิบัติการที่ทำให้สถานการณ์ในทะเลตะวันออกตึงเครียดมากขึ้น เช่น การซ่อมแซมและก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่หรือการก่อให้เกิดปัญหาที่ส่งผลร้ายแรง อันจะทำลายความไว้วางใจ เพิ่มความตึงเครียด ส่งผลกระทบในทางลบต่อสันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค อาเซียนยืนยันอีกครั้งถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎหมายสากล เรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆใช้ความอดกลั้น ไม่มีปฏิบัติการทางทหาร ไม่มีปฏิบัติการที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น แก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายสากลและอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ประเทศสมาชิกอาเซียนให้คำมั่นที่จะพยายามปฏิบัติดีโอซีอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพและมุ่งสู่การบรรลุซีโอซีโดยเร็ว

นอกจากประเทศสมาชิกอาเซียน บรรดาประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐ ออสเตรเลียและญี่ปุ่นก็ได้ออกแถลงการณ์ที่ประณามการแทรกแซงของจีนในเขตทะเลที่อยู่ในอธิปไตยของเวียดนาม พร้อมทั้งระบุว่า ปฏิบัติการล่าสุดของจีนในทะเลตะวันออกเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงการดูหมิ่นกฎหมายและกลไกทางการทูตระหว่างประเทศ โดยประกาศของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุว่า สหรัฐมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวที่จีนขัดขวางกิจกรรมขุดเจาะน้ำมันและปิโตรเลียมของเวียดนามในทะเลตะวันออกเพราะเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงด้านพลังงานในภูมิภาค

ไม่สามารถทำลายความไว้วางใจระหว่างฝ่ายต่างๆในภูมิภาคได้อีก - ảnh 2รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝ่ามบิ่งมิงกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม (VGP) 

ต้องให้ความเคารพและถือกฎหมายสากลเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ

ทั้งนี้ สามารถยืนยันได้ว่า โลกที่มีความก้าวหน้าในปัจจุบันไม่ยอมรับการกระทำและการใช้สิทธิ์ของประเทศมหาอำนาจที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งความชอบด้วยกฎหมายถือเป็นพลังขับเคลื่อนของเวียดนามในการต่อสู้เพื่อปกป้องอธิปไตยเหนือทะเลและเกาะแก่ง โดยการที่ประชาคมโลกมองเห็นถึงปฏิบัติการที่ชอบด้วยกฎหมายของเวียดนาม รวมถึงเจตนารมณ์แห่งสันติภาพและแนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามในการให้ความเคารพกฎหมายสากลจะเอื้อให้แก่ภารกิจการปกป้องอธิปไตยเหนือทะเลและเกาะแก่งของเวียดนามในทะเลตะวันออก

ความสามัคคีและความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาความตึงเครียดในทะเลตะวันออกได้รับการส่งเสริมบนพื้นฐานของกฎหมายสากลและความรับผิดชอบต่อสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาคและโลก โดยปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออกต้องได้รับการแก้ไขผ่านมาตรการสันติ ไม่ใช้กำลัง ปกป้องสิทธิการเดินเรือและการบินอย่างเสรีในภูมิภาค ให้ความเคารพกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ซึ่งทัศนะที่ได้รับความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ของอาเซียนก็คือทัศนะรวมของโลกในปัจจุบัน รวมทั้งประเทศมหาอำนาจส่วนใหญ่ในการหารือและแก้ไขปัญหาความตึงเครียดในทะเลตะวันออก.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด