ชาวโหมกโจว์ปลูกเสาวรสเพื่อส่งออก

(VOVWORLD) - เมื่อ 2 ปีก่อน การปลูกเสาวรสมีวัตถุประสงค์เพื่อเอาไว้เก็บผลผลิตรับประทานกันเองเท่านั้น แต่ในช่วง 2 ปีมานี้ ต้นเสาวรสได้กลายเป็นพืชที่มีประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจสูง ช่วยให้เกษตรกรในอำเภอ โหมกโจว์ จังหวัดเซินลา สร้างความร่ำรวยบนที่ดินผลิตเกษตรของครอบครัว

ชาวโหมกโจว์ปลูกเสาวรสเพื่อส่งออก - ảnh 1สวนปลูกเสาวรสเพื่อส่งออกของชาวโหมกโจว์

 

การส่งออกเสาวรสงวดแรกจำนวน 2 ตันไปตลาดยุโรปและฝรั่งเศสเมื่อปลายปี 2017 ได้เปิดโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการพัฒนาการส่งออกเสาวรสในอำเภอโหมกโจว์ จังหวัดเซินลา

สวนปลูกเสาวรสรวมพื้นที่ 6 พันตารางเมตรของครอบครัวนาง เหงียนถิเซฟ ในฟาร์มการเกษตรอำเภอ โหมกโจว์ เมื่อก่อนปลูกฟักแม้ว แต่จนถึงปี2016 ครอบครัวนาง เซฟ ได้เปลี่ยนพื้นที่นี้มาเป็นการปลูกเสาวรสโดยการแนะนำของเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคของบริษัทหุ้นส่วน Nafood ไตบั๊ก “ดิฉันปลูกเสาวรส 400 ต้นและเก็บผลผลิตได้ 2 เดือนแล้ว ซึ่งมีปริมาณและผลผลิตสูงกว่าการปลูกฟักแม้ว  โดยบริษัท Nafood เป็นผู้นับเหมาจำหน่วยผลิตภัณฑ์ของเรา ถึงแม้เป็นวันเสาร์หรือวันอาทิตย์  ทางบริษัทฯก็มารับซื้อเสาวรส ดังนั้นถึงฤดูเก็บเกี่ยว เสาวรสจึงได้รับการจำหน่ายทั้งหมด ไม่เหมือนพืชผักอื่นๆที่มักประสบอุปสรรคในการจำหน่าย”

ส่วนครอบครัวของนาย เหงียนวันดิ่งห์ ในตัวเมืองฟาร์มการเกษตรอำเภอโหมกโจว์ หลังจากศึกษาวิธีการดูแลและปลูกเสาวรส และทดลองปลูกเสาวรสเป็นเวลา 1 ปีก็พบว่ามีรายได้สูงกว่าการปลูกพืชอื่น จากความได้เปรียบนี้ ครอบครัวนาย ดิ่งห์ ได้ตัดสินใจเปลี่ยนพื้นที่ปลูกพืชมาเป็นการปลูกเสาวรส นาย ดิ่งห์ เผยว่า “ปีนี้คือปีที่ 3 ที่ผมปลูกเสาวรส การปลูกเสาวรสให้ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจและผลผลิตสูง เมื่อก่อนครอบครัวผมก็ปลูกพลัมและฟักแม้วซึ่งให้ผลผลิตจำนวนมากและก็สร้างรายได้เหมือนการปลูกเสาวรส ในปีแรก ผมปลูกเสาวรส 500 ต้นในพื้นที่ทั้งหมดซึ่งสร้างรายได้ 300 ล้านด่งต่อปี และปีที่ 2 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากศัตรูพืชจึงมีรายได้ในระดับปานกลาง ปีที่ 3 ผมปลูกเสาวรสงวดใหม่ โดยเน้นให้ความสนใจดูแลรักษาโรคและราคาขายดีจึงมีรายได้สูง”

ชาวโหมกโจว์ปลูกเสาวรสเพื่อส่งออก - ảnh 2เสาวรสมีประโยชน์ต่อสุขภาพ 

จากประสิทธิภาพและทำรายได้สูงในการปลูกเสาวรสทำให้จนถึงขณะนี้มีครอบครัวร้อยละ 80 ในตัวเมืองฟาร์มการเกษตรอำเภอโหมกโจว์ได้ปลูกเสาวรส เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวก็มีบริษัทมารับจำหน่าย รวมทั้งบริษัท Nafood ไตบั๊ก เมื่อปี 2015 บริษัท Nafood ไตบั๊กได้ลงนามความตกลงกับครอบครัวเกษตรกรในตัวเมืองฟาร์มการเกษตรอำเภอโหมกโจว์เพื่อปลูกเสาวรสไต้หวันเป็นการนำร่องรวมพื้นที่ 5 เฮกตาร์ โดยบริษัทฯมีความรับผิดชอบในการจัดสรรพันธุ์ เผยแพร่การประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในการปลูกและการดูแล และให้คำมั่นที่จะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งหมด หลังจากปฏิบัติโครงการมาเป็น 3 ปี พื้นที่ปลูกเสาวรสได้ให้ผลดีและมีคุณภาพสูง ให้ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจสูงกว่าการปลูกพืชแบบดั้งเดิม นาย ฝ่ามดึ๊กชิ้ง ประธานคณะกรรมการประชาชนอำเภอโหมโจว์ได้เผยว่า “พื้นที่ไหนที่ประชาชนเห็นว่า สามารถพัฒนาต่อไปได้ พวกเราก็ส่งเสริมให้พัฒนา แต่อย่างไรก็ตาม พื้นที่ปลูกเสาวรสยังคงอยู่ที่ 300-400 เฮกตาร์เพื่อค้ำประกันให้ประชาชนสามารถดูแลได้อย่างดีที่สุดและเปลี่ยนพื้นที่ที่กำลังมีอยู่ในปัจจุบันมาเป็นพื้นที่ปลูกเสาวรสที่ได้มาตรฐาน GlobalGap”

เสาวรสได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์การเกษตรแรกที่บริษัทเพื่อการส่งออกได้วางแผนในเชิงรุกและ ควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยในกระบวนการการผลิตตั้งแต่การเลือกพันธุ์ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวและคัดเลือกผลผลิตเพื่อส่งออก ซึ่งสิ่งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบการเชื่อมโยงที่มีประสิทธิภาพระหว่างสถานประกอบการกับเขตผลิตวัตถุดิบเท่านั้น หากยังสร้างความยั่งยืนให้แก่การส่งออกผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการส่งออกเสาวรส เปิดโอกาสใหม่และสร้างรายได้สูงให้แก่ประชาชนในอำเภอ โหมกโจว์ จังหวัดเซินลา

จากสัญญาณที่น่ายินดีเกี่ยวกับการปลูกเสาวรสในอำเภอโหมกโจว์ จังหวัดเซินลาได้ขยายพื้นที่ปลูกเสาวรสไปยังอำเภอเวินโห่ ถ่วนโจว์ มายเซิน เอียนโจว์และกวิ่งญาย แนวทางของจังหวัดคือจนถึงปี 2018 จังหวัดจะมีพื้นที่ปลูกเสาวรส 1 พันเฮกตาร์ และพยายามสร้างเขตผลิตวัตถุดิบให้มีพื้นที่ 5 พันเฮกตาร์ภายในปี 2021.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด