ตรุษเต๊ตของชาวเวียดนามในต่างประเทศ

(VOVWORLD) - ตรุษเต๊ตประเพณี เป็นการเริ่มปีใหม่ ถือเป็นวินาทีพิเศษสำหรับชาวเวียดนามโพ้นทะเลทุกคน ถึงแม้ในปีนี้ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ทำให้ผู้คนไม่สามารถกลับบ้านเกิดเมืองนอนเพื่อฉลองปีใหม่กับครอบครัว แต่ทุกคนก็ส่งคำอวยพรให้ครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง ประเทศเวียดนามนับวันเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นในปีใหม่ปีฉลู 2021
ตรุษเต๊ตของชาวเวียดนามในต่างประเทศ - ảnh 1

คิดถึงตรุษเต๊ตในอดีตที่เราทานข้าวกับครอบครัว ซึ่งมีขนมข้าวต้มมัดใหญ่ มีเนื้อไก่ ล้วนแต่เป็นอาหารอร่อยที่มีแค่ในช่วงตรุษเต๊ตเท่านั้น ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทั้งครอบครัวจะพากันไปอวยพรเพื่อนบ้าน ส่วนเด็กๆก็มีความสุขสนุกสนานมากเมื่อได้สวมใส่เสื้อผ้าชุดใหม่

เมื่อถึงตรุษเต๊ต คุณแม่จะนำน้ำต้มผักชีมาล้างหน้าล้างตาให้แก่สมาชิกในครอบครัว จนบัดนี้ ดิฉันยังคงจำได้กลิ่นหอมของน้ำผักชีนั้น

ในช่วงตรุษเต๊ต ผมมักจะรับหน้าที่ดูแลการลวกขนมข้าวต้มมัดใหญ่ ไฟจากเตาฟืนอุ่นมากถึงแม้อากาศหนาวจัด เรารู้สึกปรี้กระกระเป่ามาก ไม่ง่วงนอนเลย

ตรุษเต๊ตของชาวเวียดนามในต่างประเทศ - ảnh 2 นาย เหงียนก๊วกแค้ง อาศัยอยู่ในเมือง Hambur ประเทศเยอรมนี

ในจำนวนชาวเวียดนามโพ้นทะเลกว่า 4.5 ล้านคน ไม่ใช่ใครก็สามารถกลับบ้านต้อนรับตรุษเต๊ตได้ อย่างเช่น นาย เหงียนก๊วกแค้ง อาศัยอยู่ในเมือง Hambur ประเทศเยอรมนี ซึ่งในหลายปีมานี้ ในช่วงตรุษเต๊ต เขายังคงต้องไปทำงาน แต่ถึงแม้จะยุ่งแค่ไหน แต่เขาก็พยายามขอลางานเป็นเวลา 1-2 วันเพื่อทำความสะอาดบ้านเตรียมฉลองตรุษเต๊ต ในตลอด 29 ปีที่อาศัยอยู่ในประเทศเยอรมนี เขายังคงอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมของเวียดนาม โดยเตรียมถาดผลไม้ ถาดอาหารเวียดนาม เช่น ขนมข้าวต้มมัดใหญ่ หมูยอ ปอเปี๊ยะ เป็นต้น เพื่อเซ่นไหว้บรรพบุรุษและในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ สมาชิกในครอบครัวจะร่วมกันฉลองตรุษเต๊ตและโทรศัพท์อวยพรครอบครัวในเวียดนามและญาติมิตร “เราได้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่เป็นเด็ก อาจจะรู้สึกไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แต่ยังคงคิดถึงบ้านมาก ผมยังคงเตรียมพร้อมทุกอย่างเพื่อฉลองตรุษเต๊ต สอนให้ลูกหลานรู้สึกเข้าใจเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีของคนเวียดนาม ตรุษเต๊ตเวียนมา ขอให้ทุกคนในครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุข มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ลูกหลานเรียนเก่ง ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาลและสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19  เพื่อให้ประชาชนเวียดนามอิ่มหนำผาสุก โลกมีความปลอดภัย”

สำหรับนาง หวูหว่างแอง ชาวเวียดนามโพ้นทะเลในประเทศแคนาดา ในตลอด 23 ปีที่ห่างจากประเทศเวียดนาม ทุกปี เธอยังคงพยายามอนุรักษ์ประเพณีนี้ โดยร่วมกับสมาชิกในครอบครัวรอถึงช่วงเวลาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เพื่ออวยพรปีใหม่กันตามประเพณี  “เรารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้กลับเวียดนามเพื่อฉลองตรุษเต๊ตกับญาติมิตร ตรุษเต๊ตมาถึงแล้ว ก็ขอให้วิกฤตโควิด -19 ผ่านพ้นไป สมาชิกในครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง ญาติพี่น้องในเวียดนามมีความปลอดภัย โลกมีสันติภาพและพัฒนา ฉันยังรอคอยว่าสักวันจะสามารถกลับประเทศเวียดนามเพื่อไปเยี่ยมเยือนสถานที่ต่างๆ”

ตรุษเต๊ตของชาวเวียดนามในต่างประเทศ - ảnh 3นางสาว หงอกบิ๊ก

ไม่เพียงแต่ชาวเวียดนามโพ้นทะเลเท่านั้น หากนักศึกษาเวียดนามที่กำลังศึกษาในต่างประเทศก็รอคอยวันที่จะได้กลับประเทศ นาย เจิ่นแทงตุ่ง นักศึกษาเวียดนามในประเทศเยอรมนีกล่าวว่า ตนได้ฉลองตรุษเต๊ตในเยอรมนี 2 ครั้งแล้ว ปีนี้อยากกลับบ้านเพื่อฉลองตรุษเต๊ตแต่ไม่สามารถกลับได้เนื่องจาการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และเพราะกำลังเรียนปีสุดท้ายอยู่ ถึงแม้รู้สึกเสียใจแต่ตุ่งและเพี่อนๆในกลุ่มยังคงพยายามเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อสร้างบรรยากาศตรุษเต๊ต โดยแบ่งหน้าที่กันไปซื้อของในตลาด บ้างทำความสะอาดบ้านและทำอาหารเพื่อเซ่นไหว้ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ “มีอุปสรรคต่างๆที่ทำให้นักศึกษาเวียดนามในต่างประเทศไม่กลับบ้านเกิดได้ แต่อุปสรรคหลักคือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 สาเหตุที่สองคือต้องเตรียมค่าใช้จ่ายมาก ที่เยอรมนีมีแต่ฉลองปีใหม่สากลเท่านั้น ดังนั้นในช่วงตรุษเต๊ต พวกเรายังคงต้องไปเรียน ดังนั้น ทุกคนต่างคิดถึงบ้านมาก คึดถึงตรุษเต๊ตและอยากกลับบ้านเพื่ออยู่กับครอบครัวทานมื้ออาหารส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นั่นคือประเพณีอันดีงามของคนเวียดนาม”

ส่วนนางสาว หงอกบิ๊ก นักศึกษาในประเทศเนเธอแลนด์ ตรุษเต๊ตปีนี้เป็นตรุษเต๊ตที่ไม่สามารถลืมได้ หลังจากกินข้าวด้วยกัน กลุ่มนักศึกษาของเธอก็กลับห้องพัก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เธอคิดถึงบ้านมาก “สำหรับนักศึกษาที่อยู่ห่างจากครอบครัวเหมือนดิฉันเป็นครั้งแรกเมื่อตรุษเต๊ตเวียนมาแต่ไม่มีครอบครัวอยู่ใกล้ก็คิดถึงบ้านมาก แต่เราก็ต้องทำตัวให้คุ้นชินเพราะว่า มาศึกษาที่นี่ก็เพื่ออนาคตของตนเอง”

สำหรับชุมชนชาวเวียดนามโพ้นทะเล ตรุษเต๊ตถือเป็นช่วงเวลาให้มุ่งใจสู่ปิตุภูมิด้วยคำอวยพรต่างๆ ดังนั้น คุณค่าของตรุษเต๊ตประเพณีจะไม่จางหายไป หากยังได้รับการอนุรักษ์และเผื่อแผ่ให้แก่คนรอบข้างมากขึ้น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด