นาย Peter Mathews ทหารผ่านศึกอเมริกัน

ทีมนักข่าวของสถานีวิทยุเวียดนามประจำประเทศสหรัฐได้มีโอกาสไปเยี่ยมบ้านของนาย Peter Mathews ในเมืองเบอร์เกนฟิลด์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ก่อนที่เขาเดินทางมายังเวียดนาม   นาย Peter Mathews  เป็นคนที่เรียบง่ายและเป็นมิตร เมื่อเข้าบ้าน   พวกเราเห็นสมุดบันทึกวางบนโต๊ะ ซึ่งนาย Peter Mathews  เล่าให้ฟังว่าได้เก็บสมุดบันทึกนี้พร้อมหนังสือพิมพ์และข้อมูลที่เกี่ยวข้องมากว่าครึ่งศตวรรษ   

“เมื่อปี 1967 พวกเราปฏิบัติหน้าที่ 4 - 5วันบนเนินเขา 724   ซึ่งอยู่ห่างจากดั๊กโตไม่กี่ไมล์ หลังจากการปะทะยุติ พวกเราเคลื่อนทัพลงเนินเขาและนับจำนวนทหารที่เสียชีวิต ผมพบกระเป๋าเป้ทหาร 4-5 ใบและร่างทหารหลายนาย   ผมเปิดกระเป๋าเป้ทหารเพื่อหาเอกสารและข้อมูลทางทหารแล้วพบสมุดบันทึกนี้ ซึ่งผมคิดว่า รูปวาดและข้อมูลที่เขียนด้วยลายมือที่สวยงามในสมุดบันทึกนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อมูลทางทหาร ดังนั้น ผมตัดสินใจเก็บสมุดบันทึกนี้ไว้เพราะผมชอบสิ่งสวยงามในสมุดนี้  ผมอยากส่งคืนสมุดเล่มนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ผมเก็บสมุดบันทึกไว้ข้างตัว”

หลังจากที่กลับประเทศสหรัฐ นาย Peter Mathews  ได้เก็บเหรียญอิสริยาภรณ์ ชุดทหารและสมุดบันทึกเล่มนี้ไว้ในกล่องและพยายามลืมทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เวลาผ่านพ้นไป ตอนนี้ นาย Peter Mathews  อายุเกือบ 80 ปีแล้ว ซึ่งตัวเขาเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องส่งคืนสมุดบันทึกเล่มนี้ให้แก่เจ้าของหรือญาติของทหารผู้นี้ในเวียดนาม

สมุดบันทึก

ซึ่งสมุดบันทึกที่นาย Peter Mathews   เก็บรักษาไว้ในตลอด 56 ปีที่ผ่านมาได้บันทึกบทกลอน บทเพลงและอุดมการณ์ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม คำสั่งสอนของประธานโฮจิมินห์และรูปวาดที่สวยงาม ซึ่งส่วนใหญ่เขียนเมื่อปี 1966  ซึ่งเป็นลายมือของหลายคน  ซึ่งในนั้น มีชื่อของนาย กาวซวนต๊วด หมู่บ้านกาวทั้ง ตำบลกี่ซวน อำเภอกี่แอง จังหวัดห่าติ๋ง

หลังจากที่ข้อมูลดังกล่าวถูกเผยแพร่บนสื่อของเวียดนามและเครือข่ายสังคมออนไลน์  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดห่าติ่งได้ยืนยันข้อมูลว่า มีทหารพลีชีพเพื่อชาติที่ชื่อว่า กาววันต๊วด มีภูมิลำเนาตามข้อมูลที่ถูกระบุในสมุดบันทึกเล่มนี้และเขาได้สละชีพเมื่อปี 1967  มีความเป็นได้ที่นาย กาวซวนต๊วด  เป็นเจ้าของสมุดบันทึกดังกล่าว   ซึ่งเมื่อนาย Peter Mathews  ได้ทราบข้อมูลดังกล่าวจากทางเวียดนามเขาก็อยากเดินทางมาเวียดนามทันทีเพื่อส่งคืนสมุดบันทึกดังกล่าว

“ผมยังจำได้ว่า ตอนตี 3 ตามเวลาสหรัฐ เจ้าหน้าที่ทางเวียดนามได้วิดีโอคอลมาหาผมจากบ้านของทหารที่เป็นเจ้าของสมุดบันทึก  ผมร้องให้เพราะผมรู้สึกซาบซึ้งใจและมีความสุขมากเมื่อได้เห็นญาติมิตรของเจ้าของสมุดบันทึก ผมอยากเจอและส่งคืนสมุดบันทึกนี้ให้แก่พวกเขา ผมคิดว่า ผมแค่เป็นคนเก็บสมุดบันทึกเล่มนี้ไว้เท่านั้นและมันไม่เคยเป็นของผม  ผมมีความประสงค์ว่า ทุกคนจะได้รู้เกี่ยวกับสมุดบันทึกนี้”

นาย Peter Mathews  พร้อมภรรยาได้เดินทางมายังเวียดนามเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา  เพื่อมอบสมุดบันทึกเล่มนี้ให้แก่ญาติของทหารพลีชีพเพื่อชาติ กาวซวนต๊วด ในจังหวัดห่าติ๋ง นี่เป็นการเยือนเวียดนามครั้งแรกนับตั้งแต่ที่นาย Peter Mathews  กลับประเทศเมื่อปี 1967 ดังนั้น นอกจากการส่งคืนสมุดบันทึก สามีภรรยานาย Peter Mathews  ก็อยากเห็นประเทศเวียดนามในปัจจุบัน

“ผมและภรรยาได้ดูรายการโทรทัศน์ต่างๆเกี่ยวกับเวียดนาม ซึ่งพวกเราเห็นว่า ประเทศเวียดนามเจริญรุ่งเรืองและสงบสุข เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมาเห็นเวียดนามเหมือนในปัจจุบัน”

เรื่องราวของนาย Peter Mathews  ทหารผ่านศึกอเมริกันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความประสงค์เกี่ยวกับการปิดฉากอดีตและมุ่งสู่อนาคตร่วมกันของประชาชนเวียดนามและสหรัฐ.