จังหวัดดั๊กลักส่งเสริมระบบนิเวศสตาร์ทอัพ

(VOVWORLD) -ภายหลัง 2 ปีที่ให้การสนับสนุนระบบนิเวศสตาร์ทอัพ จังหวัดดั๊กลักได้ยกระดับระบบนี้ขึ้นเป็นระบบนิเวศขั้นพื้นฐาน สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้แก่สถานประกอบการสตาร์ทอัพเพื่อคิดค้นนวัตกรรมและการพัฒนาต่างๆ นี่ยังเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้จังหวัดดั๊กลักพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพในเชิงลึกเพื่อให้เกิดประสิทธิผลและดึงดูดสถานประกอบการสตาร์ทอัพมากขึ้น

 

จังหวัดดั๊กลักส่งเสริมระบบนิเวศสตาร์ทอัพ - ảnh 1นาง ฝ่ามถิทูหั่ง ในชุมชน Ea Kly อำเภอกรงปั๊ก จังหวัดดั๊กลัก 

หลังการทำธุรกิจสตาร์ทอัพเป็นเวลา 4 ปี นาง ฝ่ามถิทูหั่ง ในชุมชน Ea Kly อำเภอกรงปั๊ก จังหวัดดั๊กลักได้เปิดตัวแบรนด์เครื่องสำอางธรรมชาติ Po Lang โดยชูจุดเด่นคือเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คุณหั่งเล่าว่า เธอเป็นครูจึงขาดประสบการณ์ในการทำธุรกิจ แต่ด้วยความมุ่งมั่นแสวงหาทางออกให้แก่ผลิตภัณฑ์การเกษตรและสมุนไพรในท้องถิ่น เธอจึงได้ลองทำผลิตภัณฑ์จากอะโวคาโดและฟักข้าว หลังจากที่ล้มเหลวหลายครั้ง เธอก็เกิดความคิดที่จะใช้เนื้ออะโวคาโดและน้ำมันฟักข้าวมาทำเครื่องสำอาง แล้วเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการค้าและงานแสดงสินค้าตามคำแนะนำและการสนับสนุนของทางการจังหวัดดั๊กลัก ซึ่งทำให้เธอได้มีโอกาสติดต่อและเรียนรู้ประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญจนประสบความสำเร็จในการผลิตเครื่องสำอาง การเข้าร่วมโครงการต่างๆของจังหวัดได้ช่วยให้ดิฉันเปลี่ยนความคิด เช่น ในตอนแรก ฉันมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวแต่หลังจากที่ได้รับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์จากผู้เชี่ยวชาญในโครงการเหล่านี้ ฉันได้เปลี่ยนความคิดและพยายามสร้างผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อช่วยให้ขายดีและมีกำไรมากขึ้น นอกจากนี้ ทางจังหวัดยังเปิดชั้นเรียนที่เชิญอาจารย์เก่งๆมาสอนเรา เราได้เรียนวิธีการขาย การบริหารบุคลากรและการทำธุรกิจ ซึ่งฉันก็ค่อยๆสะสมความรู้เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในสถานประกอบการ”

สำหรับนาง หว่างถิหมีเตวี๊ยน ที่อาศัยอยู่ในตำบลหว่าถวน นครบวนมาถวด จังหวัดดั๊กลัก การเข้าร่วมโครงการสตาร์ทอัพของจังหวัดได้ช่วยให้เธอกำหนดทิศทางและเริ่มทำธุรกิจสตาร์ทอัพภายใต้เครื่องหมายการค้า VietArt ที่ผลิตอุปกรณ์ตกแต่งที่ทำจากไม้รีไซเคิลซึ่งมีส่วนช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของ VietArt มีราคาขายตั้งแต่ 0.5 ถึง 3 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถเจาะตลาดต่างๆทั้งภายในและต่างประเทศ โดยเฉพาะสร้างงานทำให้แก่คนพิการ 5 คนด้วยเงินเดือนเฉลี่ย 4 ถึง 7 ล้านด่งต่อคน คุณ หว่างถิหมีเตวี๊ยนกล่าวว่า คำแนะนำของคณะกรรมการปรึกษาสตาร์ทอัพของจังหวัดฯได้ช่วยให้เธอสามารถวางแผนทำธุรกิจได้อย่างชัดเจนมากขึ้น “เมื่อทำธุรกิจได้ระยะหนึ่ง ก็เหมือนกับสตาร์ทอัพคนอื่นๆ ดิฉันได้ประสบปัญหาเงินทุน เพราะเราต้องใช้เงินทุนเพื่อทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่โชคดีที่เราได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างมากจากศูนย์บ่มเพาะการทำธุรกิจสตาร์ทอัพและโครงการส่งเสริมต่างๆของจังหวัด”

จังหวัดดั๊กลักส่งเสริมระบบนิเวศสตาร์ทอัพ - ảnh 2นาง หว่างถิหมีเตวี๊ยน เจ้าของเครื่องหมายการค้า VietArt 

เพื่อสนับสนุนกระบวนการสตาร์ทอัพในจังหวัด ตั้งแต่ปี 2018 ทางการจังหวัดได้สร้างระบบนิเวศสตาร์ทอัพที่สร้างสรรค์ โดยในสองปีที่ผ่านมา ทางการจังหวัดได้จัดกิจกรรมต่างๆ เช่น เปิดให้บริการศูนย์ส่งเสริมสตาร์ทอัพ จัดการประกวดเกี่ยวกับสตาร์ทอัพ งานวันแห่งสตาร์ทอัพปี 2019 จัดตั้งกองทุนสตาร์ทอัพ จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่สตาร์ทอัพ จัดโครงการเชื่อมโยงการค้าและส่งเสริมการค้าเพื่อช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของสถานประกอบการสตาร์ทอัพเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคทั้งภายในและต่างประเทศ เป็นต้น

สำหรับคุณ ฝ่ามยวีเฮี้ยว รองประธานกองทุนสตาร์ทอัพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเวียดนามหรือเอสวีเอฟ ซึ่งเป็นสำนักงานที่ได้ร่วมมือกับคณะกรรมการประชาชนจังหวัดดั๊กลักในช่วงแรกๆที่เริ่มพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพได้เผยว่า ในเวลาที่ผ่านมา ทางการจังหวัดฯ ได้ปฏิบัติหน้าที่บ่มเพาะ สนับสนุนและสร้างแรงบันดาลใจ จุดประกายให้แก่ชุมชนและยกระดับระบบนิเวศสตาร์ทอัพของจังหวัดจากจุดเริ่มต้นให้ขึ้นเป็นระดับพื้นฐานอย่างสมบูรณ์ “นี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้ทางจังหวัดปฏิบัติโครงการพัฒนาในเชิงลึกเพื่อยกระดับความสามารถของศูนย์บ่มเพาะและกองทุนผจญภัยเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมระบบนิเวศอย่างทันการณ์ จังหวัดดั๊กลักมีความได้เปรียบคือได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างมากจากผู้บริหารจังหวัด ซึ่งได้ช่วยส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมในทุกทีทุกเวลา แต่อย่างไรก็ตาม เราควรส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างสำนักงานภาครัฐเพื่อสามารถร่วมกันปฏิบัติโครงการต่างๆได้ดีที่สุด

จังหวัดดั๊กลักกำลังปฏิบัติกิจกรรมสนับสนุนการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ เช่น จัดการประกวดสตาร์ทอัพดั๊กลักครั้งที่สองในปี 2020 เปิดการฝึกอบรมออนไลน์ให้แก่เจ้าหน้าที่พนักงานและนักธุรกิจสตาร์ทอัพ นี่คือความพยายามของจังหวัดฯ เพื่อบรรลุเป้าหมายถึงปี 2025 จะยกระดับระบบนิเวศสตาร์ทอัพให้มีสถานประกอบการประมาณ 20,000 แห่ง ซึ่งรวมทั้งสถานประกอบการด้านนวัตกรรม 2,000 แห่ง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด