การกุเรื่องเท็จไม่สามารถทำลายกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติได้

(VOVWORLD) - ในขณะที่เหตุพายุและเหตุน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในจังหวัดต่างๆทางภาคกลางเมื่อไม่นานนี้และได้สร้างความเสียหายอย่างหนัก ทางพรรค รัฐ รวมทั้งกองทัพ ตำรวจ องค์กรการเมืองและสังคมและผู้มีใจกุศลก็กำลังระดมกำลัง ร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่นั้น ก็มีกลุ่มที่เป็นอริและพวกที่ฉกฉวยโอกาสทางการเมืองที่จงใจอ้างปัญหาดังกล่าวเพื่อปั้นแต่งข่าวเท็จ เผยแพร่คลิปวิดีโอที่บิดเบือนความจริงและให้ร้ายเกี่ยวกับกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ แต่ถึงกระนั้น การกระทำดังกล่าวของกลุ่มที่เป็นอริก็ไม่สามารถทำลายกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติได้
การกุเรื่องเท็จไม่สามารถทำลายกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติได้ - ảnh 1หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดกว๋างบิ่ง

เหตุอุทกภัยในจังหวัดต่างๆทางภาคกลางกำลังเป็นที่สนใจจากประชาชนเวียดนามทั้งภายในและต่างประเทศ โดยกระทรวง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและท้องถิ่นต่างๆได้ประสานงานกันในการรับมือและแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นเพื่อให้การช่วยเหลืออย่างพร้อมเพรียงและพยายามลดความเสียหายให้เหลือน้อยที่สุด ในหลายท้องถิ่น แม้จะมีแผนการไว้ก่อนแล้ว แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ภัยธรรมชาติได้เป็นไปอย่างซับซ้อน ทางการท้องถิ่นก็ได้ระงับการจัดการประชุมใหญ่พรรคสาขาทุกระดับชั่วคราวเพื่อระดมกำลังต่องานด้านการป้องกันและแก้ไขเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้น งานด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้รับการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ตามรายงานของสำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติเกี่ยวกับการรับมือภัยธรรมชาติและการค้นหากู้ภัยเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ในเวลาอันสั้น กองทัพภาคที่ 4 และภาคที่ 5 และทหารชายแดนได้ส่งทหารเกือบ 9 พันนาย ยานพาหนะ 200 คันไปสนับสนุนการช่วยเหลือของหน่วยกู้ภัยในท้องถิ่น โดยได้ช่วยเหลือชาวประมงและลูกเรือที่ประสบภัยในเขตทะเลเกื๋อเหวียดในจังหวัดกว๋างจิเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม  เช่น เรือ Vietship TK 12 เรือ Vietship 09 เรือVietship 01 เรือ Hoàng Tuấn 26 เรือThanh Thành Ðạt 55 และเรือThanh Thành Ðạt 68 ต่อมา เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ได้ช่วยเหลือผู้โดยสาร 18 คนที่มากับรถโดยสารเลขทะเบียน 43B - 024.54 ที่ประสบเหตุน้ำท่วมในอำเภอโบ๋แจก จังหวัดกว๋างบิ่ง แต่อย่างไรก็ตาม เหตุอุทกภัยและปัญหาดินถล่มได้สร้างความเสียหายอย่างหนักทั้งด้านชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งการสูญเสียเจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 4 ในระหว่างการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งสร้างความซาบซึ้งใจให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ

สิ่งที่น่าสนใจคือในช่วงก่อนและในขณะที่เกิดเหตุอุทกภัยในภาคกลาง พรรคและรัฐบาลได้ทำการชี้นำงานด้านการป้องกัน รับมือและแก้ไขผลเสียหายอย่างทันการณ์ โดยเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม เลขาธิการกลางพรรคฯได้ส่งโทรเลขชี้นำงานด้านการป้องกัน รับมือและลดความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมและฝนตกหนักในจังหวัดต่างๆทางภาคกลาง ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม นายกรัฐมนตรีได้ส่งโทรเลข 1411 เกี่ยวกับการช่วยเหลือและแก้ไขผลเสียหายจากปัญหาดินถล่มบริเวณโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหร่าวจังหมายเลข 3 ในจังหวัดเถื่อเทียนเว้และคณะกรรมการเศรษฐกิจ-กลาโหม 337 ของกองทัพภาคที่ 4 ในจังหวัดกว๋างจิ และเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังแจกจ่ายข้าว 5 พันตันจากคลังสำรองแห่งชาติให้แก่จังหวัดกว๋างบิ่ง กว๋างจิ เถื่อเทียนเว้ กว๋างนามและห่าติ๋ง จังหวัดละ 1 พันตันเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย เมื่อเร็วๆนี้ นายกรัฐมนตรียังได้อนุมัติเงิน 5 แสนล้านด่งจากงบประมาณสำรองส่วนกลางปี 2020 ให้แก่ 5 จังหวัดทางภาคกลางเพื่อปฏิบัติงานด้านช่วยเหลือผู้ประสบภัย ส่วนบรรดาผู้นำพรรคและรัฐได้ลงพื้นที่จังหวัดทางภาคกลางเพื่อตรวจสอบและชี้นำงานด้านการป้องกันและรับมือเหตุอุทกภัย อีกทั้งให้กำลังใจและมอบสิ่งของช่วยเหลือให้แก่ประชาชน เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่จังหวัดกว๋างบิ่งเพื่อตรวจสอบงานด้านการแก้ไขผลเสียหายจากเหตุน้ำท่วม ส่วนในการประชุมกับท้องถิ่นต่างๆเพื่อชี้นำการรับมือพายุโมลาเบผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม นายกรัฐมนตรีได้ชี้นำให้กระทรวง หน่วยงานส่วนกลางและท้องถิ่นระงับการประชุมที่ไม่จำเป็นเพื่อทุ่มเทกำลังต่องานด้านการป้องกันและรับมือพายุ โดยถือการรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ในขณะเดียวกัน ประชาชนทั่วประเทศได้ร่วมกับรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาคกลาง

การกุเรื่องเท็จไม่สามารถทำลายกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติได้ - ảnh 2 ผู้นำรัฐบาลบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาคกลาง

อาจกล่าวได้ว่า เมื่อประชาชนในท้องถิ่นต่างๆประสบอุปสรรคและความยากลำบาก ประชาชนเวียดนามทั้งภายในและต่างประเทศต่างแสดงออกถึงจิตใจแห่งการช่วยเหลือจุนเจือกันผ่านการบริจาคเงินและสิ่งของต่างๆ ซึ่งถือเป็นเกียรติประวัติที่ดีงามของคนเวียดนาม แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน ซึ่งกลุ่มนี้ไม่ได้มีการจัดกิจกรรมช่วยเหลือใดๆ อีกทั้งยังจงใจใช้ความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยมาสร้างข่าวเท็จเพื่อใส่ร้ายทางการปกครอง กองทัพและตำรวจ ทั้งที่จริงแล้ว ทุกหน่วยงานที่ถูกใส่ร้ายล้วนแต่เดินหน้าและเสียสละเพื่อความปลอดภัยของประชาชน การกระทำดังกล่าวของกลุ่มที่เป็นอริมีจุดมุ่งหมายคือเพื่อต่อต้านพรรคและรัฐ พยายามปล่อยข่าวเท็จเพื่อบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในประเทศและมุ่งสร้างความแตกแยกกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนเวียดนามภายในและต่างประเทศและระหว่างประชาชนกับพรรค รัฐและทางการท้องถิ่น แต่ถึงแม้กลุ่มที่เป็นอริจะใส่ร้ายป้ายสีเช่นไร ก็ไม่สามารถทำลายเกียรติประวัติแห่งความเป็นมนุษย์และกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติของเวียดนามได้อย่างแน่นอน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด