นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุกได้มอบหมายหน้าที่ให้กระทรวงยุติธรรมประสานงานกับกระทรวงและหน่วยงานต่างๆจัดคณะเจรจาข้อตกลงที่มีตัวแทนของสำนักประธานประเทศ สำนักรัฐบาล ศาลประชาชนสูง สถาบันอัยการประชาชนสูงสุด กระทรวงยุติธรรม กระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไปและกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วม

วันที่ 11 สิงหาคม สถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครโฮจิมินห์ได้จัดพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2020 โดยมีการเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและลงนามถวายพระพรชัยมงคลในขณะเดียวกันสถานทูตไทย ณ กรุงฮานอย พร้อมกลุ่มเยาวชนไทย-เวียดนามร่วมแรงร่วมใจในกิจกรรมจิตอาสาถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยวาดรูประบายสีตู้ไฟฟ้ารอบสถานเอกอัครราชทูตฯที่สื่อถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทย-เวียดนาม สถานที่สำคัญและสัญลักษณ์ของทั้งสองประเทศ ประชาสัมพันธ์เพจ facebook “Love Thai” ที่ส่งเสริมให้คนเวียดนามรุ่นใหม่รู้จักอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ประเพณีไทย ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริม ความสมัครสมานสามัคคีร่วมแรงร่วมใจกันทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

(Photo สถานทูตไทย ณ กรุงฮานอย)

หนึ่งในกิจกรรมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่น่าสนใจในเดือนสิงหาคมคือการจัดเที่ยวบินพาพลเมืองไทยที่ตกค้างในเวียดนามกลับประเทศและการมอบหน้ากากอนามัยของสถานทูตไทย ณ กรุงฮานอยและสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครโฮจิมินห์ โดยเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม นาย ธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอยได้มอบหน้ากากอนามัยของบริษัทซีพีเวียดนามให้แก่ชนกลุ่มน้อยเผ่าไทขาวในอำเภอมายโจว์ จังหวัดหว่าบิ่งห์เพื่อสนับสนุนชนกลุ่มน้อยเผ่าไทยขาวควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนที่นครโฮจิมินห์ เมื่อบ่ายวันที่ 28 สิงหาคมนายอภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กงสุลใหญ่ไทย ณ นครโฮจิมินห์และตัวแทนของสมาคมสถานประกอบการ ณ นครโฮจิมินห์ได้ร่วมบริจาคสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้แก่แนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามประจำนครโฮจิมินห์ ประกอบด้วยปลากระป๋อง 300 ลัง มูลค่า 200 ล้านด่ง (ประมาณ 3 แสนบาท) และหน้ากากอนามัยของบริษัท ซี.พี. เวียดนาม จำนวน 3,000 ชิ้นเพื่อให้การช่วยเหลือเวียดนามป้องกันและควบคุมโรคโควิด -19 และมีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพและความสามัคคีระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ในด้านพลังงาน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมนายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอยได้นำคณะนักธุรกิจในสาขาพลังงาน ได้แก่ บริษัท Gulf Energy Vietnam และ บริษัท Super Energy เข้าพบกับนาย Do Nhat Hoang อธิบดีกรมการลงทุนต่างประเทศเวียดนามเพื่อหารือเกี่ยวกับโอกาสและแนวทางแก้ไขอุปสรรคการลงทุนในสาขาพลังงานในเวียดนาม โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า จะร่วมหารือเกี่ยวกับข้อเสนอการเชื่อมโยงสายส่งไฟฟ้าหรือเครือข่ายพลังงาน (Power Grid) ในภูมิภาค ซึ่งจะเป็นประโยชน์ร่วมกันในอนาคตต่อไป

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานลม El Wind MuiDinhของเวียดนาม ซึ่งเป็นอีกก้าวของบริษัทที่มุ่งมั่นในการลงทุนระยะยาวในเวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตและมีการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์สูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

ภาพพิธี(VNA)

กิจกรรมที่น่าสนใจอีกอย่างในด้านการค้าและการลงทุนคือการเปิดศูนย์แสดงสินค้าเวียดนามที่มีคุณภาพสูงณ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างโอกาสให้ผู้บริโภคในภาคอีสานสามารถเข้าถึงสินค้าเวียดนามที่มีคุณภาพสูงเท่านั้น หากยังสร้างโอกาสให้สถานประกอบการทั้งสองประเทศขยายการแลกเปลี่ยนการค้าและแสวงหาโอกาสความร่วมมือประกอบธุรกิจอีกด้วย

ส่วนในปลายเดือนสิงหาคม ณ สถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทย ได้มีการเปิดโครงการ “Window to Vietnam” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจในเวียดนาม โดยเฉพาะสถานประกอบการที่อยากประกอบธุรกิจในประเทศไทยและสถานประกอบการไทยที่กำลังประกอบธุรกิจในเวียดนาม.