การวางผังตัวเมืองริมฝั่งทะเลจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า วิสัยทัศน์และการพัฒนา

(VOVWORLD) - จังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่ามีอำเภอและนครริมฝั่งทะเล 5 แห่ง ประกอบด้วย นครหวุงเต่า อำเภอลองเดี่ยน อำเภอเดิ๊ดด๋อ อำเภอเซวียนหมกและอำเภอกนด๋าว ในเวลาที่ผ่านมา ทางการจังหวัดได้วิจัยและปฏิบัติการวางผังตัวเมืองริมฝั่งทะเลแบบบูรณการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งสู่การวางผังและสร้างสรรค์ตัวเมืองริมฝั่งทะเลเพื่อค้ำประกันการพัฒนาอย่างยั่งยืนและสร้างสรรค์เอกลักษณ์เฉพาะถิ่น

การวางผังตัวเมืองริมฝั่งทะเลจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า วิสัยทัศน์และการพัฒนา  - ảnh 1

ตัวเมืองริมฝั่งทะเลจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า (Photo baoxaydung)

ในยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม จังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า ได้กำหนดเศรษฐกิจ 5 ภาคที่ต้องเน้นพัฒนา ประกอบด้วย อุตสาหกรรม ท่าเรือทะเล การให้บริการด้านโลจิสติกท่าเรือ การท่องเที่ยวและการเกษตรที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โดยเศรษฐกิจทางทะเลมีความสำคัญพิเศษต่อการพัฒนาของท้องถิ่น

ในหลายปีที่ผ่านมา ทางการจังหวัดได้ยืนหยัดเป้าหมายคัดเลือกโครงการลงทุนและพร้อมปฏิเสธโครงการที่มีมูลค่านับพันล้านดอลลาร์สหรัฐถ้าหากโครงการเหล่านี้ไม่ยั่งยืนและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ทางการจังหวัดฯ ได้วิจัยการวางผังตัวเมืองริมฝั่งทะเลอย่างรอบด้านโดยอาศัยภูมิศาสตร์ สถานการณ์และแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม การวางแผนของหน่วยงาน การวางผังของท้องถิ่นและของแต่ละเมือง

นาย มายจุงฮึง รองผู้อำนวยการสำนักงานการก่อสร้างจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่าเผยว่า ทางการจังหวัดให้ความสนใจเป็นอย่างมากถึงการใช้บรรยากาศและที่ดินเพื่อเข้าถึงทะเลแต่ต้องพยายามและตรวจสอบ โดยเฉพาะปัญหาสิ่งแวดล้อมเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบในทางลบต่อที่ดินและการวางผังตัวเมืองริมฝั่งทะเลของจังหวัด            “เราต้องตรวจสอบและปรับปรุงหลายอย่าง เช่น การใช้ที่ดินริมฝั่งทะเลที่ยังมีปัญหาอยู่ โดยเฉพาะการก่อสร้างถนนริมฝั่งทะเลและการใช้ที่ดินต่างๆจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศ ทิวทัศน์และสิ่งแวดล้อม เป็นต้น”

นายเจิ่นหงอกชิ้ง ประธานสมาคมวางแผนและพัฒนาตัวเมืองเวียดนามเผยว่า เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเลอย่างเข้มแข็ง ทางการจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่าได้พิจารณาการวางแผนที่เป็นรูปธรรมและรอบคอบเพื่อให้สอดคล้องกับการวางผังตัวเมืองและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในสภาวการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและน้ำทะเลหนุน โดยให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานริมฝั่งทะเลในเวลาที่ผ่านมาได้สร้างโฉมใหม่ให้แก่ตัวเมืองริมฝั่งทะเลของจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่าแต่ยังขาดความพร้อมเพรียงในการแบ่งหน้าที่ในแต่ละเขต การพัฒนาแบบกระจัดกระจายและขาดโครงสร้างที่โดดเด่น ดังนั้น จังหวัดต้องมีการวางแผนที่เหมาะสมเพื่อควบคุมการใช้ทรัพยากรริมฝั่งทะเลและดึงดูดนักลงทุน            “ตัวเมืองริมฝั่งทะเลไม่ควรเหมือนกันทั้งหมดแต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ เช่น การท่องเที่ยว เขตตากอากาศและนิคมอุตสาหกรรม จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้การวางแผนเหมาะสมที่สุด”

ดร. เลก๊วกหุ่ง รองหัวหน้าสถาบันวางแผนการก่อสร้างภาคใต้เผยว่า จังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่าต้องมีวิสัยทัศน์ในระยะยาวต่อยุทธศาสตร์การพัฒนาตัวเมืองริมฝั่งทะเล โดยแต่ละตัวเมืองต้องมียุทธศาสตร์การพัฒนาเฉพาะตัว โดยไม่จำเป็นต้องเป็นตัวเมืองเพื่อการท่องเที่ยว แต่สามารถพัฒนาศักยภาพในด้านอื่นๆเพื่อสร้างจุดเด่นและสร้างเครือข่ายตัวเมืองริมฝั่งทะเลที่หลากหลายรูปแบบ

ผู้เชี่ยวชาญในการวางผังตัวเมืองให้ข้อสังเกตว่า เพื่อสร้างจุดเด่นให้แก่ตัวเมืองริมฝั่งทะเล จังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า จำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ยุทธศาสตร์ในอีก 20-30 ปีข้างหน้า นาย เหงียนดิ่งจุง ประธานเครือบริษัทฮึงถิงเสนอว่า สำหรับตัวเมืองริมฝั่งทะเลหวุงเต่า เขตก่อกัง ลองเซิน ควรก่อสร้างสะพานเพื่อเป็นจุดเด่นและลดความแออัดให้แก่ทางหลวงหมายเลข 51            “ไม่ใช่ว่าเราต้องก่อสร้างสะพานทันทีแต่ก็ต้องวางแผนเพื่อสามารถก่อสร้างในอีก 30 ปีข้างหน้าเพื่อมีจะถนนเข้านครหวุงเต่า 2 เส้นทางคือทางหลวงหมายเลข 51 และถนนไฮเวย์ที่ผ่านสะพานแห่งนี้เข้านครหวุงเต่าโดยตรง”

นอกจากจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า จังหวัดริมฝั่งทะเลอื่นๆก็ควรมีวิสัยทัศน์ในระยะยาว โดยต้องพยายามสร้างภาพลักษณ์และจุดเด่นให้ได้ พร้อมทั้งมีการวางแผนและการบริหารอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ นอกจากเป็นตัวเมืองแห่งการท่องเที่ยว ตัวเมืองริมฝั่งทะเลสามารถพัฒนาศักยภาพอื่นๆ เพื่อสร้างจุดเด่นของตนเอง เช่น พัฒนาเป็นตัวเมืองเชิงนิเวศ ตัวเมืองสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ตัวเมืองแห่งมหาวิทยาลัย ตัวเมืองทางเศรษฐกิจ การเงิน เพื่อสร้างเครือข่ายตัวเมืองริมฝั่งทะเลที่หลากหลายรูปแบบ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด