การส่งออกฟันฝ่าความท้าทายเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ร้อยละ 6

(VOVWORLD) - ในไตรมาสแรกของปีนี้ มูลค่าการนำเข้าและส่งออกของเวียดนามบรรลุเกือบ 154.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้ว่ามูลค่าการส่งออกจะลดลงกว่าร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่เวียดนามยังคงรักษาดุลการค้าและได้เปรียบดุลการค้ากว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 และ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021 ซึ่งเป็นสัญญาณในเชิงบวกเพื่อให้เวียดนามบรรลุเป้าหมายการเติบโตของการส่งออกที่ร้อยละ 6 ในปีนี้
การส่งออกฟันฝ่าความท้าทายเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ร้อยละ 6 - ảnh 1กิจกรรมการส่งออกสินค้าของบริษัท หว่าฟาต 

ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างล่าช้าท่ามกลางนโยบายรัดเข็มขัดในหลายประเทศได้ทำให้ความต้องการของหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่และมูลค่าการส่งออกของเวียดนามลดลง ในไตรมาสแรกของปีนี้ เวียดนามยังคงมีสินค้าส่งออก 14 รายการที่มีมูลค่าการส่งออกสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสินค้าส่งออก 4 รายการที่สูงกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่ โทรศัพท์และชิ้นส่วน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน เครื่องจักรกล สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป สำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว สถานประกอบการได้เป็นฝ่ายรุกในการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าตั้งแต่แหล่งจัดสรรไปจนถึงตลาดส่งออก ใช้ประโยชน์จากสิทธิพิเศษของข้อตกลงการค้าเสรีหรือ FTA อย่างเต็มที่เพื่อการส่งออก นาย เลเตี๊ยนเจื่อง ประธานสภาบริหารของกลุ่มบริษัทสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปเวียดนามหรือ Vinatex เผยว่า สถานประกอบการสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปได้ใช้ประโยชน์จากใบสั่งซื้ออย่างเต็มที่ รวมทั้งใบสั่งซื้อที่มียอดสั่งปริมาณน้อยเพื่อธำรงการผลิต อีกทั้ง วิจัยความสามารถในการเปลี่ยนแปลงสินค้าตามความต้องการของตลาดและพร้อมกำลังผลิตเพื่อต้อนรับโอกาสของตลาด

“เรามีนโยบาย 5 ข้อที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง 1 คือยึดมั่นการเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก 2 คือสร้างห่วงโซ่อุปทานที่สมบูรณ์ในสถานประกอบการสังกัดกลุ่มบริษัทสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปเวียดนามและกลายเป็นจุดหมายปลายทางของหุ้นส่วนต่างๆ 3 คือยึดมั่นปฏิบัติตามคำมั่นเกี่ยวกับความรับผิดชอบทางสังคมในด้านสิ่งแวดล้อม 4 คือยึดมั่นปฏิบัติงานด้านการปรับเปลี่ยนเข้าสู่ยุคดิจิทัลและระบบอัตโนมัติ 5 คือยึดมั่นลงทุนพัฒนาและฝึกอบรมบุคลากร”

นอกจากนี้ ในไตรมาสแรก มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตร ป่าไม้และสัตว์น้ำของเวียดนามบรรลุกว่า 1 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการส่งออกข้าวและผักเติบโตอย่างเข้มแข็ง สำหรับการส่งออกข้าว ปริมาณการส่งออกข้าวบรรลุเกือบ 1.8 ล้านตัน รวมมูลค่า 952 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 19 ในด้านปริมาณและเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 ในด้านราคาเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ราคาข้าวส่งออกเฉลี่ยของเวียดนามในไตรมาสแรกของปีนี้อยู่ที่ 519 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งสูงที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมาและมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศส่งออกข้าว นาย เจิ่นแทงหาย รองอธิบดีกรมนำเข้าและส่งออกของกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเผยว่า

“ปัจจุบัน การผลิตข้าวดีมาก เวียดนามมีแหล่งผลิตเพื่อการส่งออกข้าวที่มั่นคง ส่วนในด้านตลาด ถ้าหากอินเดียยังคงห้ามส่งออกข้าวต่อไปก็จะเป็นเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยต่อการส่งออกข้าวของเวียดนามและตลาดส่งออกข้าวอื่นๆ ด้วย การที่ประเทศต่างๆ กำลังมีความต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดดั้งเดิมของเวียดนาม เช่น จีนและฟิลิปปินส์จะช่วยให้เราค้ำประกันปริมาณการส่งออกข้าวในปีนี้สูงถึงประมาณ 7 ล้านตัน”

ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกของเวียดนามยังคงมุ่งไปที่ตลาดเดิม โดยสหรัฐเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ด้วยมูลค่าการส่งออกบรรลุเกือบ 2 หมื่น 6 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาคือจีนที่มีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่น 1 พัน  5 ร้อย 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับตลาดสหภาพยุโรปหรืออียู ข้อตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอฉบับต่างๆได้เกิดประสิทธิผลที่น่ายินดีเมื่อการส่งออกไปยังสหภาพยุโรปเกินดุลการค้าเกือบ 1 หมื่น 4 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะ ในไตรมาสแรก การส่งออกไปยังสหรัฐได้เปรียบดุลการค้าประมาณ 1 หมื่น  7 พัน 5 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้ว่าตลาดสหรัฐจะมีข้อกำหนดและมาตรฐานที่เข้มงวดมากขึ้นสำหรับสินค้านำเข้า เช่น ความปลอดภัยของผู้บริโภค การพัฒนาที่ยั่งยืนและการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่สินค้าของเวียดนามยังคงตอบสนองมาตรฐานและมูลค่าการส่งออกก็เพิ่มมากขึ้น นาย  โด๋หงอกฮึง  ที่ปรึกษาฝ่ายการค้าของเวียดนามในสหรัฐได้แสดงความเห็นว่า

“ในกรอบทวิภาคีและพหุภาคีที่เวียดนามและสหรัฐเข้าร่วม ผมเห็นว่า ทั้งสองฝ่ายยังมีจุดที่คล้ายกันที่สามารถช่วยส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนได้นอกจากนั้น หนึ่งในปัจจัยหลักที่สหรัฐให้ความสำคัญต่อเศรษฐกิจเวียดนามคือคำมั่นของเวียดนามในการประชุมสุดยอดCOP 26 โดยยืนยันการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 นี่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า เวียดนามกำลังมุ่งสู่ผลิตภัณฑ์แห่งสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยมีเป้าหมายคืออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและจะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันของการส่งออกของเวียดนามในอนาคต”

การส่งออกฟันฝ่าความท้าทายเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ร้อยละ 6 - ảnh 2นาย เจิ่นแทงหาย รองอธิบดีกรมนำเข้าและส่งออกของกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม

ในสภาวการณ์ที่อุปสรรค์ของโลกลดลง อัตราเงินเฟ้อและภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นในหลายประเทศ ในการประชุมส่งเสริมการค้ากับระบบการค้าในต่างประเทศของเวียดนามประจำเดือนมีนาคมปี 2023 ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงฮานอย เมื่อวันที่ 31 มีนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม เหงียนห่งเยียน กล่าวว่า “สำนักงานตัวแทนการค้าเวียดนามในต่างประเทศเน้นประเมินการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคที่ตนประจำการ โดยเฉพาะนโยบายล่าสุดของประเทศเหล่านี้ต่อการรับมือ อุปสรรคและความท้าทายระดับโลกเพื่อ วิจัยและเสนอแนวทางและนโยบายจากทั้งระดับรัฐบาล ท้องถิ่น สถานประกอบการ สมาคมสถานประกอบการและผู้ผลิตเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อตกลง FTA ฉบับใหม่อย่างเต็มที่ผ่านกิจกรรมการนำเข้าและส่งออกของตน

ในปีนี้ การส่งออกยังคงได้รับการถือว่า เป็นพลังขับเคลื่อนสำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามโดยมีเป้าหมายคือ การเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 6 คาดว่า มูลค่าการส่งออกจะบรรลุ 3 แสน 9 หมื่น 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐถึง 3 แสน 9 หมื่น 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นประมาณ 2 หมื่น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมได้เป็นฝ่ายรุกในการเกาะติดสถานการณ์ทั้งภายในและต่างประเทศ อัพเดทการคาดการณ์ของตลาด ควบคู่กันนั้นคือแก้ไขอุปสรรคเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการในการเจาะตลาดส่งออกใหม่ๆ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด