ในฐานะสถานประกอบการด้านสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ได้รับใบสั่งซื้อจากประเทศต่างๆทั่วโลก ในหลายปีที่ผ่านมา บริษัทสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปหมายเลข 10 ได้ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล นาย เทินดึ๊กเหวียด ผู้อำนวยการบริษัทฯ เผยว่า การประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์บริหารการผลิตอัตโนมัติได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและกำลังการผลิตให้แก่สถานประกอบการ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเทียบกับช่วงก่อน การใช้เทคโนโลยีใหม่นี้ได้ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเป็น 2 เท่าและลดค่าใช้จ่ายในด้านแรงงานลงครึ่งหนึ่ง ดังนั้น ควบคู่กับการลงทุนประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ทันสมัย ทางบริษัทฯ ยังผลักดันการลงทุนในด้านซอฟต์แวร์การออกแบบเสื้อผ้าเพื่อช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่าย นาย เทินดึ๊กเหวียด กล่าวว่า

“สำหรับเทคโนโลยีพัฒนาการออกแบบของอุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำเร็จรูป เมื่อ 3 ปีก่อน ทางบริษัทฯได้ลงทุนให้แก่การใช้ซอฟต์แวร์ออกแบบชนิด 3 มิติ ซึ่งช่วยให้เราประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการส่งแบบจากเวียดนามไปยังสหรัฐ ญี่ปุ่นและยุโรป”

ส่วนนาง เหงียนถิห่งจาง รองผู้อำนวยการบริษัท TSJ 365 Vietnam ยืนยันว่า ถ้าหากไม่สามารถใช้โอกาสจากแนวโน้มการพัฒนาเทคโนโลยีได้ สถานประกอบการก็ยากที่จะคงอยู่และพัฒนา โดยเฉพาะในสภาวะการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19

“ถ้าหากพวกเราไม่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เราจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ดังนั้นบริษัทต่างๆในทั่วโลกกำลังปฏิบัติและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ถ้าเราไม่ปฏิบัติตาม เรก็าจะล้าสมัยและไม่สามารถตามทันแนวโน้มของโลกได้”

ตามรายงานของ “e –Conomy SEA 2020” ซึ่งเป็นโครงการของ Google และ Temasek บริษัทลงทุนระดับโลกของสิงคโปร์ที่จัดสรรข้อมูลเกี่ยวกับเศรษฐกิจอินเตอร์เน็ตในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เวียดนามและอินโดนีเซียเป็น 2 ประเทศที่มีอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจดิจิทัลมากที่สุดเฉลี่ยร้อยละ 27 ในระยะปี 2015 ถึงปี 2020 โดยเฉพาะในปี 2020 ถึงแม้ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากการแพร่ระบาดของโรควิด- 19 แต่การขยายตัวของเศรษฐกิจดิจิทัลเวียดนามยังคงบรรลุ 1 หมื่น 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีส่วนร่วมร้อยละ 5.2 ต่อ GDP ซึ่งในนั้น อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ อีคอมเมิร์ซและโทรคมนาคมพัฒนาอย่างรวดเร็ว

บรรดาผู้เชี่ยวชาญแสดงความคิดเห็นว่า เศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วในทั่วโลกกำลังสร้างโอกาสที่ดีให้แก่เศรษฐกิจเวียดนาม แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากโอกาสแล้ว ยังมีความท้าทายไม่น้อย ดังนั้นเวียดนามต้องมียุทธศาสตร์ในการปรับตัวให้เหมาะสม นาย เลห่งห่า อุปนายกสมาคมคอมพิวเตอร์เวียดนามแสดงความคิดเห็นว่า

“เวียดนามมีความสามารถในด้านเทคโนโลยี แต่ยังประสบอุปสรรคมากมายในการประยุกต์ใช้และต้องการการลงทุน ซึ่งหมายความว่า ต้องมีแหล่งพลัง สองคือต้องได้รับการอำนวยความสะดวกในด้านกฎหมายและการสนับสนุนจากสังคมเพื่อสามารถพัฒนาได้”

ในความเป็นจริง การเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตเป็นผลมาจากการพัฒนาของวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและผลสำเร็จของการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งประเทศต่างๆที่สามารถใช้ผลสำเร็จด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงล้วนแต่มีกำลังการผลิตสูง มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน จากการตระหนักได้ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ เวียดนามได้มีก้าวเดินที่เป็นฝ่ายรุกและเข้มแข็งเพื่อใช้ประโยชน์จากการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 อย่างมีประสิทธิภาพและปฏิบัติเป้าหมายพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยอย่างรวดเร็ว.