ยืนยันเครื่องหมายการค้าข้าวเวียดนามจากเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง

(VOVWORLD) -ปี 2020 เกษตรกรและสถานประกอบการในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ดี และราคาข้าวอยู่ในระดับสูง โดยการปฏิรูปโครงสร้างการเกษตรและข้อตกลงการค้าเสรีฉบับต่างๆ ที่มีผลบังคับใช้ถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกษตรกรประสบความสำเร็จดังกล่าว
ยืนยันเครื่องหมายการค้าข้าวเวียดนามจากเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง - ảnh 1ข้าวของเวียดนาม (Photo VNplus)

ในปี 2020 เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงสามารถปลูกข้าวได้กว่า 1.5 ล้านเฮกตาร์ต่อฤดู กำลังการผลิตอยู่ที่เฉลี่ย 6 ตันต่อเฮกตาร์ ผลผลิตข้าวตลอดทั้งปีคิดเป็นกว่า 24 ล้านตัน โดยในฤดูข้าวนาปี 2020-2021 คาดว่าจะบรรลุ 10 ล้านตัน ถึงแม้ประสบภัยแล้งแต่กำลังการผลิตข้าวยังค่อนข้างอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะราคาข้าวในปี 2020 สูงกว่าปีก่อนๆ ซึ่งช่วยให้เกษตรกรได้กำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 30-40 นาย หวอมิงห์ลวน หัวหน้าสำนักงานการเกษตรและพัฒนาชนบทของอำเภอโจว์แถ่ง จังหวัดซอกจังได้เผยว่า            “สิ่งที่น่ายินดีคือราคาข้าวในปีนี้ดีมาก โดยเฉพาะข้าวพันธุ์ OM19, OM5451 และ ST ซึ่งช่วยให้เกษตรกรมีกำไรสูงกว่าปี 2019 ที่ประมาณ 1-2 ล้านด่งต่อเฮกตาร์”

ส่วนตลาดส่งออกข้าวของเวียดนามในปีนี้ก็ดีมาก โดยคาดว่าจะบรรลุ 6 ล้านตันเพราะว่าถึงปลายเดือนพฤศจิกายน เวียดนามส่งออกข้าวได้แล้วกว่า 5.74 ล้านตัน มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 2.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สิ่งที่น่าสนใจคือ ข้าวขาว 5% ของเวียดนามมีราคาขายเกือบ 520 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ราคาส่งออกข้าวของเวียดนามสูงกว่า 450 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน สถานประกอบการต่างๆในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงแสดงความคิดเห็นว่า สาเหตุที่ข้าวเวียดนามส่งออกได้ในราคาสูงก็เพราะมีคุณภาพดีขึ้นบวกกับการมีผลบังคับใช้ของข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม – อียูที่ช่วยเปิดโอกาสให้ข้าวเวียดนามส่งออกไปยังประเทศต่างๆในยุโรปได้มากขึ้น นาย เหงียนวันโดน ผู้อำนวยการบริษัท เวียดฮึงจำกัดในอำเภอก๊ายแบ่ จังหวัดเตี่ยนยางแสดงความคิดเห็นว่า            “ในปี 2020 สถานประกอบการของเราได้บรรลุแผนที่วางไว้ในการส่งออก โดยมีราคาสูงกว่าร้อยละ 10 ซึ่งส่วนใหญ่เราได้ส่งออกไปยังตลาดมาเลเซีย ฟิลิปปินส์และจีน เป็นต้น ในต้นปีนี้ เราก็วางแผนส่งออกไปยังตลาดอียู โดยเชื่อมโยงกับภาครัฐ นักวิทยาศาสตร์และเกษตรกรเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองมาตรฐานที่เข้มงวดของตลาดอียูแล้วส่งเสริมการส่งออกไปยังตลาดนี้ให้ได้”

สาเหตุที่ช่วยการผลิตและจำหน่ายข้าวประสบความสำเร็จมากกว่าปีก่อนๆคือ แผนการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานการเกษตรของรัฐบาล โดยเน้นถึงการปฏิรูปโครงสร้างของอุตสาหกรรมการผลิตข้าว ซึ่งช่วยเปลี่ยนรูปแบบการผลิตข้าวตามแนวทางหันมายกระดับคุณภาพแทนการเพิ่มปริมาณ สองคือ เวียดนามได้ลงนามข้อตกลงการค้าเชิงยุทธศาสตร์กับหลายประเทศ เช่น ข้อตกลงซีพีทีพีพีและอีวีเอฟทีเอ ซึ่งได้อำนวยความสะดวกให้ข้าวเวียดนามพัฒนาอย่างก้าวกระโดด สามคือ การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ที่แม้จะส่งผลให้อุตสาหกรรมต่างๆลดกำลังการผลิตแต่ความต้องการด้านอาหารกลับไม่ลดลง คาดว่า การส่งออกข้าวของเวียดนามในไตรมาสแรกปี 2021 จะยังอยู่ในระดับสูงเพราะว่าตลาดส่งออกหลักของเวียดนาม เช่น ฟิลิปปินส์และแอฟริกา ยังคงสั่งซื้อข้าวจากเวียดนาม นี่จะเป็นพื้นฐานให้เวียดนามเพิ่มปริมาณการส่งออกข้าว นายหวอก๊วกฮึง รองผู้อำนวยการบริษัทเฟือกดาดจำกัดในตำบลบิ่งดึ๊ก อำเภอโจแถ่ง จังหวัดเตี่ยนยาง เสนอว่า ข้าวของเวียดนามได้รับรางวัล “ข้าวที่อร่อยที่สุดในโลก” ดังนั้นรัฐบาลควรเพิ่มโควต้าการส่งออก

ปี 2020 การส่งออกข้าวของเวียดนามได้ผลดี ซึ่งสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การส่งออกข้าวของเวียดนาม โดยเฉพาะข้าวจากเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงในปี 2021 ให้มากขึ้น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด