สถานการณ์เศรษฐกิจสังคมใน๖เดือนแรกของปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี

(VOVworld) –  แม้เศรษฐกิจใน๖เดือนแรกของปีนี้จะประสบความลำบากต่างๆแต่ตามข้อสังเกตุของนายกรัฐมนตรี สถานการณ์เศรษฐกิจสังคมได้พัฒนาอย่างถูกทิศทาง และ มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะ มาตรการควบคุมเงินเฟ้อและสร้างเสถียรภาพให้แก่เศรษฐกิจได้เกิดประโยชน์อย่างจริงจัง

(VOVworld) –  แม้เศรษฐกิจใน๖เดือนแรกของปีนี้จะประสบความลำบากต่างๆแต่ตามข้อสังเกตุของนายกรัฐมนตรี สถานการณ์เศรษฐกิจสังคมได้พัฒนาอย่างถูกทิศทาง และ มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะ มาตรการควบคุมเงินเฟ้อและสร้างเสถียรภาพให้แก่เศรษฐกิจได้เกิดประโยชน์อย่างจริงจัง
สถานการณ์เศรษฐกิจสังคมใน๖เดือนแรกของปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี - ảnh 1
ข้าวเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกสำคัญของเวียนดาม (Photo Internet)

(VOVworld) –  ตามข้อมูลที่ทบวงสถิติย์ประกาศเมื่อเร็วๆนี้  ยอดผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีใน๖เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ๔.๓๘ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำแต่ยังคงสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลได้วางไว้ โดยเฉพาะ ในสภาวการณ์ที่สถานประกอบการจำนวนมากประสบอุปสรรคในการผลิต การประกอบธุรกิจ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และมีสถานประกอบการเกือบ๕หมื่น๓พันแห่งต้องประกาศล้มละลาย ระงับการผลิตและการประกอบธุรกิจดังนั้นอัตราการขยายตัวดังกล่าวจึงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ  ตั้งแต่ไตรมาสที่๒ สถานการณ์เศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง ในสภาวการณ์ที่โลกประสบความลำบากแต่เวียดนามยังคงดึงดูดโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศได้๔๕๒โครงการ รวมยอดเงินทุน๔.๗๖พันล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าการส่งออกบรรลุกว่า๕หมื่น๓พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ๒๒ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาซึ่งถือเป็นจุดเด่นของเศรษฐกิจ สิ่งที่น่าสนใจคือ ดัชนีราคาผู้บริโภคมีแนวโน้มลดลงและได้ลดลงร้อยละ๐.๒๖ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาซึ่งมิใช่สัญญาณเงินฝืดหากเป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นผลสำเร็จเบื้องต้นในการควบคุมเงินเฟ้อของรัฐบาล นายĐỗ Thức อธิบดีทบวงสถิติกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่ปัญหาเงินฝืดเพราะไม่ได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหลายเดือนแต่เป็นเพียงการลดลงของดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาซึ่งก่อนหน้านั้นยังคงอยู่ในระดับสูง ดัชนีราคาผู้บริโภคลดลงไม่มากถือเป็นสัญญาณที่น่ายินดีของเศรษฐกิจและพวกเรามีความประสงค์ว่า จะมีการปรับลดให้อยู่ในอัตราที่เหมาะสมและมีเสถียรภาพ”  หน้าที่ที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในการบริหารเศรษฐกิจใน๖เดือนที่เหลือของปีนี้คือการปฏิบัติมติของรัฐบาลเกี่ยวกับมาตรการแก้ไขอุปสรรคให้แก่การผลิต และการประกอบธุรกิจ เพิ่มการเจาะตลาด โดยเฉพาะ การแก้ไขปัญหาสินค้าค้างสต๊อกอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กันนั้น ธนาคารชาติได้วางมาตรการเพื่อลดดอกเบี้ย ปฏิบัตินโยบายการเงินอย่างคล่องตัวเพื่อควบคุมสินเชื่อและราคาไม่ให้เพิ่มขึ้นในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้   ท่านNguyễn Tấn Dũng นายกรัฐมนตรีเวียดนามให้ข้อสังเกตุเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจสังคมใน๖เดือนที่ผ่านมาว่า สถานการณ์เศรษฐกิจสังคมประสบผลสำเร็จในทุกด้าน พัฒนาอย่างถูกทิศทางและตรงเป้าหมายที่ได้วางไว้ หนึ่งในหน้าที่สำคัญของรัฐบาลใน๖เดือนที่เหลือคือ แก้ไขข้อบกพร่องเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานของสถานประกอบการภาครัฐเพื่อมีส่วนร่วมสร้างเสถียรภาพให้แก่เศรษฐกิจและรักษาอัตราการขยายตัวยอย่างยั่งยืน ท่านNguyễn Tấn Dũng กล่าวว่า  “ผมขอเรียกร้องให้บรรดารัฐมนตรีพิจารณาใหม่การปรับปรุงโครงสร้างสถานประกอบการภาครัฐ โดยเฉพาะ ต้องสำรวจขนาดและขอบเขตการผลิตและประกอบธุรกิจเพื่อจัดสรรตามแนวทางเน้นในสาขาอาชีพที่สำคัญเท่านั้น ประเด็นที่๒คือ ต้องปรับปรุงการบริหาร จัดทำกฏระเบียบภายในเพื่อทำการผลิตและประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ประเด็นที่๓คือ ปรับปรุงกลไกการจัดตั้งให้มีความสมบูรณ์ รัฐบาลจะแบ่งระดับการบริหารและความรับผิดชอบของหน่วยงานบริหารสถานประกอบการใหม่”   

สถานการณ์เศรษฐกิจสังคมใน๖เดือนแรกของปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี - ảnh 2
ใน๖เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามยังคงดึงดูดโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศได้๔๕๒โครงการ(Photo Internet)

รัฐบาลยืนยันเป้าหมายที่ได้วางไว้คือ สร้างเสถียรภาพให้แก่เศรษฐกิจ ควบคุมเงินเฟ้อ พยายามบรรลุ๑๔เป้าหมายจากทั้งหมด๑๕เป้าหมายที่ได้วางไว้ในปีนี้  เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ในเร็วๆนี้ รัฐบาลจะเน้นบริหารการปฏิบัติ๖กลุ่มมาตรการนั่นคือ ปฏิบัตินโยบายการเงินอย่างรอบคอบ ประสานระหว่างนโยบายงบประมาณกับนโยบายทางการเงิน ระหว่างเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนกับการบริหารดอกเบี้ยให้มีความสอดคล้องกัน ดำเนินมาตรการช่วยเหลือการผลิตภาคการเกษตร อุตสากรรม การบริการเพื่อส่งเสริมจุดแข็งในการปรับปรุงโครงสร้าง ลดค่าใช้จ่ายในการผลิต ยกระดับผลผลิตและประสิทธิภาพในการผลิตซึ่งตามเจตนารมณ์นี้ใน๖เดือนที่เหลือจะพยายามควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ที่ร้อยละ๗ถึงร้อยละ๘  อัตราการขยายตัวจีดีพีให้อยู่ที่ร้อยละ๕.๒ถึงร้อยละ๕.๗และจะพยายามทำให้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้เพื่อสร้างพื้นฐานที่มั่นคงและยั่งยืนให้แก่เศรษฐกิจ./.

                                                                                                                                

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด