เปิดโอกาสในการส่งออกสินค้าหลักไปยังตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

(VOVWORLD) - สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือ UAE ถือเป็นศูนย์กลางทางการเงินและการค้าของตะวันออกกลาง เป็นประตูสำคัญในการนำสินค้าเวียดนามเจาะตจลาดตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป และตลาดโลก ในขณะที่การส่งออกของเวียดนามไปยังตลาดหลายแห่งใกล้ถึงจุดอิ่มตัว แต่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพมาก มีโอกาสให้แก่สินค้าเกษตรและสัตว์น้ำของเวียดนาม โดยเฉพาะ หลังจากที่ข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือ CEPA ที่ได้เริ่มต้นทำการเจรจาในระดับรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 เมษายนปี 2023
เปิดโอกาสในการส่งออกสินค้าหลักไปยังตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ - ảnh 1การแปรรูปสัตว์น้ำ (VNA)

 

ตามรายงานของกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ปัจจุบัน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนามในภูมิภาคตะวันออกกลาง-แอฟริกาเหนือ สินค้าส่งออกหลายรายการของเวียดนามมีความได้เปรียบในการส่งออกไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เช่น สินค้าเกษตร สัตว์น้ำ อาหารแปรรูป สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ เป็นต้น ซึ่งเติบโตทั้งในด้านปริมาณและมูลค่าการส่งออก เมื่อปี 2006 มูลค่าการส่งออกของเวียดนามไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์บรรลุเพียง 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่เมื่อปีที่แล้ว ตัวเลขดังกล่าวได้บรรลุ 3.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะ ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ยอดมูลค่าการค้าระหว่างเวียดนามกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อยู่ที่ประมาณกว่า 1.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

 เนื่องจากโครงสร้างเศรษฐกิจการเกษตรคิดเป็นไม่ถึงร้อยละ 1 ซึ่งส่วนใหญ่คือด้านปศุสัตว์และการเพาะปลูกอินทผลัม ดังนั้น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จึงต้องนำเข้าอาหารส่วนใหญ่เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน มีการคาดการณ์ว่า ในปีนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะเพิ่มขึ้นอย่างเข้มแข็ง ดังนั้น นี่เป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปยังตลาดนี้ นาย เจืองซวนจุง เจ้าหน้าที่รับผิดชอบสำนักงานการค้าเวียดนามในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เผยว่า

“เมื่อปีที่แล้ว การส่งออกสินค้าสัตว์น้ำของเวียดนามไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์บรรลุเกือบ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2021 ในกลุ่มสินค้าเกษตร เวียดนามมีสินค้าหลักบางรายการ เช่น มะนาวไร้เมล็ด แก้วมังกร แตงโมและส้มโอ มูลค่าการส่งออกเม็ดมะม่วงหิมพานต์บรรลุกว่า 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นกลุ่มสินค้าที่เวียดนามมีมูลค่าการส่งออกมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 81 ของยอดมูลค่าการนำเข้าของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พริกไทยอยู่ที่กว่าร้อยละ 65  ของส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเมื่อปีที่แล้ว มูลค่าการส่งออกพริกไทยบรรลุ 58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนมูลค่าการส่งออกข้าวบรรลุ 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 7.3 ของส่วนแบ่งข้าวในตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์”

การที่เวียดนามเข้าร่วมข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคีและพหุภาคีในเวลาที่ผ่านมาได้ช่วยให้กิจกรรมการค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งสินค้าเกษตรและอาหารหลายรายการได้รับการส่งออกไปยังตลาดที่มีมูลค่าการตลาดสูง ขณะนี้ ข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือ CEPA ได้รับการเจรจาโดยสำนักงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ซึ่งถ้าหากได้รับการลงนามในเร็วๆนี้ จะไม่เพียงแต่จะช่วยให้เวียดนามส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์โดยตรงเท่านั้น หากยังช่วยให้สินค้าของเวียดนามเจาะตลาดตะวันออกกลางและประเทศอื่นๆ ผ่านสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อีกด้วย นาง เลห่งแอง อธิบดีกรมตลาดเอเชีย-แอฟริกาคาดการณ์ว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นตลาดที่เต็มไปด้วยศักยภาพเมื่อข้อตกลง CEPA ได้รับการอนุมัติ

“เรายังคงส่งเสริมการส่งออกไปยังตลาดที่ได้ลงนามข้อตกลง FTA โดยเฉพาะ เน้นสรุปประสบการณ์ของประเทศต่างๆ ที่ใช้ประโยชน์จากข้อตกลง FTA เพื่อให้คำแนะนำที่จำเป็นให้แก่สถานประกอบการเวียดนาม คาดว่า จะมีการลงนาม FTA กับอิสราเอลในปีนี้ เราจะมีแผนการปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพและประสานงานกับสำนักงานและหน่วยงานต่างๆเพื่อเริ่มการเจรจา FTA กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพื่อเปิดโอกาสความร่วมมือให้แก่ภูมิภาคตะวันออกกลางที่เต็มไปด้วยศักยภาพ"

เปิดโอกาสในการส่งออกสินค้าหลักไปยังตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ - ảnh 2นาง เลห่งแอง อธิบดีกรมตลาดเอเชีย-แอฟริกา (tapchicongthuong.vn)

ถึงแม้จะมีโอกาสมากมาย แต่สำนักงานตัวแทนการค้าเวียดนามในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังแสดงความเห็นว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงทั้งในด้านราคาและคุณภาพ และนี่คือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับสถานประกอบการเวียดนามในการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนั้น สถานประกอบการเวียดนามต้องแข่งขันโดยตรงกับสถานประกอบการจากหลายประเทศที่ได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรีหรือ FTA กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย อิสราเอลและตุรกีเนื่องจากสถานประกอบการเหล่านี้ได้รับสิทธิพิเศษเมื่อส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่อย่างไรก็ตาม สถานประกอบการเวียดนามยังคงมองตลาดนี้ในแง่ดี นาย เหงียนเตือง รองเลขาธิการสมาพันธ์สถานประกอบการโลจิสติกเวียดนามได้แสดงความเห็นว่า

“ในเวลาที่ผ่านมา กิจกรรมนำเข้า ส่งออกและโลจิสติกส์ได้เติบโตขึ้นอย่างเข้มแข็งเนื่องจากได้รับประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีที่ทำกับประเทศต่างๆ เช่น EVFTA, CPTPP และ RCEP สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นตลาดสำคัญในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นประตูเพื่อส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่างๆในแอฟริกา ลาตินอเมริกา ยุโรปและเอเชีย เนื่องจากประเทศเหล่านั้นมีโครงสร้างพื้นฐานด้านท่าเรือและสนามบินที่ดีจึงสามารถเชื่อมโยงกับตลาดต่างๆ ได้  ดังนั้น นี่เป็นตลาดที่มีศักยภาพถ้าหากเราสามารถใช้ประโยชน์จากตลาดนี้ได้ก็จะดีมาก”

เพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าของเวียดนามไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรต์มากขึ้น สถานประกอบการเวียดนามมุ่งสู่การประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต เปลี่ยนแปลงวิธีการบริหารและลดต้นทุนโดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางเพื่อลดราคาสินค้าและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเวียดนาม นอกจากนั้น เนื่องจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นประเทศอิสลาม สถานประกอบการเวียดนามจึงวางแผนที่จะศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมและความต้องการของผู้บริโภคชาวมุสลิม สร้างระบบการรับรองฮาลาลสำหรับผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอางและแฟชั่นอิสลามเมื่อส่งออกไปยังตลาดนี้ มาตรการแบบบูรณาการจากสำนักงานที่เกี่ยวข้องและสถานประกอบการ บวกกับการเจรจาเพื่อจัดทำข้อตกลง CEPA กำลังเปิดโอกาสมากมายเพื่อให้สินค้าเวียดนามเจาะตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด