(VOVWORLD) - นอกจากการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลแล้ว เวียดนามยังส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงสีเขียว โดยถือเป็นความต้องการที่จำเป็น เป็นปัจจัยสำคัญและแรงกระตุ้นการเติบโตอย่างรวดเร็วและการพัฒนาที่ยั่งยืน ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวของเวียดนามเน้นถึงเป้าหมาย 3 ประการ ได้แก่ การส่งเสริมการปรับปรุงความคิดสีเขียวให้มีความสมบูรณ์ การสร้างชุมชนสีเขียวที่มีความรับผิดชอบ และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศผ่านรูปแบบความร่วมมือสีเขียวที่มีการเข้าร่วมของหลายฝ่าย
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กล่าวปราศรัยในการประชุมผู้นำ P4G (VGP) |
ภายใต้หัวข้อ “ไม่เสียสละความก้าวหน้า ความยุติธรรมทางสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อแลกกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ” ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวของเวียดนามได้กำหนดเป้าหมายว่า การเติบโตสีเขียวจะต้องบรรลุความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และความยุติธรรมทางสังคม มุ่งสู่เศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนเป็นกลางเพื่อมีส่วนร่วมต่อการบรรลุเป้าหมายในการลดอุณหภูมิโลกที่เพิ่มขึ้น
ในการประชุมผู้นำหุ้นส่วนเพื่อการเจริญเติบโตสีเขียวและเป้าหมายโลกปี 2030 หรือ P4G ครั้งที่ 4 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ กรุงฮานอย นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันอีกครั้งถึงเป้าหมายนี้ ต่อหน้าผู้แทนจากต่างประเทศว่า
“เวียดนามกำหนดการเปลี่ยนแปลงสีเขียวเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตอย่างรวดเร็วและการพัฒนาที่ยั่งยืน เศรษฐกิจสีเขียวต้องการสถานประกอบการสีเขียว สังคมสีเขียวต้องการพลเมืองสีเขียว โลกสีเขียวต้องการประเทศสีเขียว การเข้าร่วม การมีส่วนร่วมและการใช้ประโยชน์จากกระบวนการเปลี่ยนผ่านสีเขียวถือเป็นความรับผิดชอบและสิทธิของทุกประเทศและประชาชนบนเจตนารมณ์แห่ง “การทำงานร่วมกัน ชัยชนะร่วมกัน ใช้ประโยชน์ร่วมกันและพัฒนาร่วมกัน”
เพื่อปฏิบัติตามคำมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในวงกว้างให้เป็น “ศูนย์” ภายในปี 2050 เวียดนามได้ปฏิบัติมาตรการต่างๆอย่างพร้อมเพรียงเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว ประกาศใช้นโยบายต่างๆ เช่น แผนการดำเนินการตามการวางผังไฟฟ้า VIII ยุทธศาสตร์การพัฒนาพลังงานไฮโดรเจนจนถึงปี 2030 โครงการพัฒนาพื้นที่ปลูกข้าวที่มีคุณภาพสูงจำนวน 1 ล้านเฮกตาร์อย่างยั่งยืน การปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกในระดับต่ำและชุดตัวชี้วัดสถิติการเติบโตสีเขียว ควบคู่กับการปรับปรุงนโยบายเกี่ยวกับการบริหารจัดการ การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้มีความสมบูรณ์ เช่น กฎหมายที่ดินและกฎหมายทรัพยากรน้ำ
นาย เหงวียนแหม่งหุ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (VGP) |
ควบคู่กันนั้น การพัฒนาตลาดสำหรับสิทธิการใช้ที่ดิน สิทธิในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรและคาร์บอนเครดิตด้วยความประสงค์ที่จะเดินพร้อมและผสมผสานเข้ากับโลกในด้านสีเขียว นาย เหงวียนแหม่งหุ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเผยว่า
“เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่จัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติเพื่อดำเนินการตามระเบียบวาระการประชุมปี 2030 โดยเปลี่ยนจากรูปแบบการเติบโตแบบดั้งเดิมไปสู่การเติบโตสีเขียวและเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเป็นคำมั่นที่เข้มแข็ง แต่ก็สร้างแรงกดดันเป็นอย่างมากให้แก่ตัวเราเอง เพื่อกระตุ้นสติปัญญาเวียดนาม แสวงหานวัตกรรมระดับโลกเพื่อตองสนองการพัฒนาสีเขียวของเวียดนาม”
นอกจากนี้ ยังมีการปฏิบัติกลุ่มมาตรการต่างๆเพื่อกระตุ้นแหล่งพลังเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงโครงการพัฒนาที่ยั่งยืน 16 โครงการในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง ด้วยเงินกู้ประมาณ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ รัฐบาลพร้อมกับหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการเพื่อสนับสนุนสถานประกอบการในการปรับเปลี่ยนการผลิตให้ได้มาตรฐานใหม่ มาตรฐานสีเขียว การปล่อยก๊าซคาร์บอนและมาตรฐานสิ่งแวดล้อม-สังคม-ธรรมาภิบาลหรือ ESG เวียดนามยังได้ประกาศแผนการระดมแหล่งพลังเพื่อปฏิบัติแถลงการณ์ทางการเมืองเกี่ยวกับการสถาปนาหุ้นส่วนในการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรมหรือ JETP และกำหนดโครงการที่สำคัญในกรอบความคิดริเริ่มของประชาคมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์เอเชียหรือAZEC
ระดับความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงสีเขียวของสถานประกอบการเวียดนามก็นับวันเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีรูปแบบการผลิตและการแปรรูป กิจการสีเขียว ท่าเรือสีเขียว เขตนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศและวัสดุก่อสร้างเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ รูปแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนกำลังส่งเสริมการเติบโตสีเขียวที่ยั่งยืนในเวียดนาม จากมุมมองด้านการเกษตร นาย เหงวียนโด๋แองต๊วน อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศของกระทรวงการเกษตรและสิ่งแวดล้อมยืนยันว่า ความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนมีส่วนร่วมสร้างคุณค่ามากขึ้นให้แก่การเกษตรของเวียดนาม
“นี่จะเป็นแนวโน้มพื้นฐานหลักเพื่อเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ในด้านการเกษตรของเวียดนาม เพราะนวัตกรรมต้องมาจากแนวคิดใหม่ๆ ที่หลากหลายที่สามารถสร้างความเชื่อมโยงและประสานงานระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนได้ ด้วยเป้าหมายการเติบโตทางการเกษตรที่ร้อยละ 4 ที่รัฐบาลกำหนด นวัตกรรมจึงเป็นปัจจัยหลักเพื่อให้เวียดนามเติบโตเร็วขึ้น”
ด้วยความประสงค์ที่จะพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วมต่อการส่งเสริมกระบวนการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั่วโลก ถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีแหล่งพลังจำกัด แต่เวียดนามก็กำลังพยายามดำเนินการตามยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว โดยเตรียมการอย่างดีที่สุดให้แก่กระบวนการพัฒนาที่ “รวดเร็วและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” และยั่งยืน.