Media /
รายงานสถิติจากกรมการบริหารเขื่อนกั้นน้ำและป้องกันสาธารณภัย ระบุว่า จนถึงเวลา 06.30 น. ของวันที่ 21 พฤศจิกายน เหตุน้ำท่วมและดินถล่มในพื้นที่หลายจังหวัดทางภาคกลาง ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 41 คน และสูญหายอีก 9 คน
ฝนตกหนักต่อเนื่องและการระบายน้ำจากเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ ทำให้บ้านเรือน 68,000 หลังในจังหวัดยาลาย ดั๊กลัก และแค๊งหว่า จมอยู่ใต้น้ำ ครอบคลุมพื้นที่ 50 ตำบลของจังหวัดแค๊งหว่า 30 ตำบลของจังหวัดยาลาย และ34 ตำบลของจังหวัดดั๊กลัก
น้ำในแม่น้ำบาและแม่น้ำกี่โหละ จังหวัดดั๊กลัก ทำสถิติอยู่ในระดับสูงสุด ในขณะที่ระดับน้ำของแม่น้ำยิงนิงหว่าอยู่ที่ 6.77 เมตร สูงกว่าระดับเตือนภัยระดับสามที่ 1.07 เมตร และระดับน้ำท่วมสูงสุดครั้งประวัติศาสตร์เมื่อปี 1986 ที่ 0.19 เมตร ปัจจุบัน ระดับน้ำท่วมในแม่น้ำบาที่ตำบลฟู๊เลิมลดลง 0.7 เมตร เมื่อเทียบกับระดับน้ำท่วมสูงสุด ส่วนที่ตำบลกูงเซินลดลง 3.23 เมตร เมื่อเทียบกับระดับน้ำท่วมสูงสุด ขณะที่แม่น้ำกี่โหละ ลดลง 5.17 เมตร เมื่อเทียบกับระดับน้ำท่วมสูงสุดและต่ำกว่าระดับเตือนภัยระดับสอง
สถานการณ์น้ำท่วมเป็นเวลาหลายวันในจังหวัดยาลายทำให้หลายคนต้องรื้อกระเบื้องหลังคาออกเพื่อขอความช่วยเหลือ (ภาพ: ผู้หญิงคนหนึ่งในเขตกวีเญินโดง)
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ตำรวจจังหวัดยาลายร่วมกับคณะกรรมการพรรคสาขาและทางการปกครองท้องถิ่นระดับตำบลอพยพประชาชน 2,850 ครัวเรือน รวม 10,529 คน ไปยังศูนย์พักพิงอย่างปลอดภัย และช่วยเหลือประชาชนอีก 766 คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม
ผู้สูงอายุและเด็กเล็กจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือออกจากพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดยาลาย
ตำรวจได้ส่งเรือแคนู 15 ลำ เรือยนต์ 43 ลำ รถยนต์ 400 คัน และเสื้อชูชีพประมาณ 4,000 ตัว ไปยังพื้นที่ประสบภัยเพื่อช่วยเหลืออพยพประชาชน
ขณะเดียวกัน กองบัญชาการทหารจังหวัดยาลายได้ระดมกำลังทหาร 1,617 นายเพื่ออพยพประชาชน 2,463 ครัวเรือน รวม 6,704 คน ออกจากพื้นที่ประสบภัย
การลำเลียงสิ่งของจำเป็นไปยังพื้นที่ประสบภัยเพื่อช่วยเหลือประชาชน
ปฏิบัติการช่วยผู้ประสบภัยในจังหวัดดั๊กลักยังคงมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ ยังไม่มีการระบุจำนวนผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมอย่างเป็นทางการ
อุทกภัยในจังหวัดดั๊กลักในช่วงสามวันที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือน 39,517 หลังจมอยู่ใต้น้ำ และมี 11,586 ครัวเรือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ขณะที่มี 11,530 ครัวเรือนได้รับการอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย
น้ำท่วมทำให้เกิดดินถล่ม ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับเส้นทางจราจรหลายสาย ในภาพคือสะพานหล่อโก๊มในตำบลตวีอานบั๊ก ที่ถูกน้ำพัดหายไป
นาย Y San Adrông รองผู้กำกับการตำรวจจังหวัดฯ เผยว่า แผนรับมืออุทกภัยได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 18 พฤศจิกายน โดยทางตำรวจจังหวัดฯ ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่และทหารจำนวน 5,000 นาย พร้อมรถยนต์ประเภทต่าง ๆ จำนวน 122 คัน เรือแคนูและเรือยนต์อีก 40 ลำ เพื่อสนับสนุนหน่วยงานท้องถิ่นหลายแห่งในการรับมืออุทกภัย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ค้ำประกันความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่น้ำท่วมขัง
พื้นที่หลายแห่งในจังหวัดแค๊งหว่า จมอยู่ใต้น้ำหลังระดับน้ำในแม่น้ำก๊ายฟานราง สูงกว่าระดับเตือนภัยระดับสาม
ฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 19 พฤศจิกายน จนถึงเช้าวันที่ 20 พฤศจิกายน ทำให้ถนนหลายสายในเขตญาจางตะวันตก และเขตญาจางเหนือ ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก
ระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ชาวบ้านไม่สามารถรับมือได้ทันและยานพาหนะจมอยู่ในน้ำ
เช้าวันที่ 21 พฤศจิกายน ตามรายงานของสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดแค๊งหว่า ระบุว่า ระดับน้ำในแม่น้ำยิงนิงหว่า เริ่มลดลง ซึ่งตอนเวลา 9.00 น. ของวันที่ 21 พฤศจิกายน บริเวณสถานีวัดระดับน้ำดึ๊กหมีอยู่ที่ 15.53 เมตร สูงกว่าระดับเตือนภัยระดับหนึ่ง 0.03 เมตร บริเวณสถานีอุตุนิยมวิทยาตำบลนิงหว่าอยู่ที่ 6.26 เมตร สูงกว่าระดับเตือนภัยระดับสาม 0.56 เมตร .

ประมวลภาพน้ำท่วมใหญ่ในเวียดนามกลางตอนใต้ บ้านเรือนนับหมื่นหลังจมอยู่ใต้น้ำและการรื้อกระเบื้องหลังคาออกเพื่อขอความช่วยเหลือ

(VOVWORLD) - ฝนตกหนักเป็นเวลาหลายวันบวกกับการระบายน้ำจากเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ ทำให้บ้านเรือน 68,000 หลังในพื้นที่จังหวัดยาลาย จังหวัดดั๊กลัก และจังหวัดแค๊งหว่า จมอยู่ใต้น้ำ

VTC