เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม (Reuters)

(VOVworld) – เมื่อวันที่ 22 เมษายน ณ สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติในนครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐ 175 ประเทศได้ลงนามข้อตกลงปารีสเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศซึ่งเป็นก้าวเดินสำคัญเพื่อทำให้ข้อตกลงเกี่ยวกับการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศมีผลบังคับใช้ก่อนกำหนดหลายปี บรรดาผู้นำของหลายประเทศ รวมทั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเวียดนาม เจิ่นห่งห่าได้เข้าร่วมการลงนามดังกล่าว
ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนนอกรอบพิธีลงนามข้อตกลงปารีสเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ นาย เจิ่นห่งห่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเวียดนามได้ย้ำว่า ถึงแม้ข้อตกลงจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่หลังปี 2020 แต่ขณะนี้ ข้อตกลงฉบับนี้กำลังเปิดโอกาสที่ยิ่งใหญ่ให้แก่ประเทศต่างๆ รวมทั้งเวียดนาม อีกทั้งเป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามทบทวนรูปแบบการพัฒนาที่อาศัยค่าจ้างแรงงานต่ำและทรัพยากรธรรมชาติเป็นหลักเพื่อเปลี่ยนเป็นรูปแบบการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสามารถใช้แหล่งพลัง ประสบการณ์และเทคโนโลยีของประเทศพัฒนาในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
นอกจากข้อดีแล้ว เวียดนามก็ต้องเผชิญกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ด้วยเช่นกัน แต่เพื่อปฏิบัติเนื้อหาของข้อตกลงปารีสในระยะต่อไป ตามความเห็นของรัฐมนตรี เจิ่นห่งห่า เวียดนามต้องถือการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัวคาร์บอนต่ำและการับมืออย่างมีประสิทธิภาพคือหนึ่งในมาตรการหลักเพื่อพัฒนาประเทศให้รวดเร็วและดีขึ้น จัดตั้งรูปแบบการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ ในระยะยาว ต้องเป็นฝ่ายรุกในการระบุข้อกำหนดของข้อตกลงในนโยบายและกฎหมายของเวียดนาม มุ่งสู่การจัดทำกฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ส่งเสริม ให้สิทธิพิเศษ ให้การช่วยเหลือสถานประกอบการ องค์การและบุคคล ผลักดันการลงทุนในการปฏิบัติกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก เปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัวและเป็นฝ่ายรุกในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ.