นาย ฝามบิ่งมิง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม (Photo: baothegioi)

ในบทความดังกล่าว รองนายกรัฐมนตรี ฝามบิ่งมิงได้ย้ำว่า จากบทบาทการเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในสภาวการณ์ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ เวียดนามจะยืนหยัดแนวทางการต่างประเทศที่อิสระ เป็นตัวของตัวเอง มีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหลายรูปแบบหลายฝ่าย ผลักดันการสนทนา ลดความตึงเครียดและการเผชิญหน้า แสวงหามาตรการแก้ไขปัญหาที่คุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคและโลก ให้ความเคารพกฎหมายสากล กฎบัตรของสหประชาชาติ โดยเฉพาะ หลักการขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับความยุติธรรม อธิปไตยระหว่างประเทศ ให้ความเคารพเอกราช อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนและระบอบการเมืองและสังคม ไม่แทรกแซงกิจการภายใน แก้ไขปัญหาการพิพาทอย่างสันติ ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้กำลัง  เวียดนามจะยกย่องจิตใจ “หุ้นส่วนเพื่อสันติภาพอย่างยั่งยืน” โดยมีเนื้อหาที่สำคัญเกี่ยวกับการป้องกันการปะทะ สร้างสรรค์สันติภาพ ส่งเสริมลัทธิพหุภาคีและกลไกพหุภาคี โดยเฉพาะ สหประชาชาติและองค์การต่างๆในภูมิภาค

คาดว่า เวียดนามจะเป็นประธานในการประชุมกว่า 30 ครั้งเพื่อหารือและตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินงานของกองกำลังรักษาสันติภาพในประเทศเยเมนและลิเบีย สถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซีเรีย โคลอมเบีย สาธารณรัฐแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตก เป็นต้น โดยเฉพาะ เวียดนามจะจัดการประชุมหารือระดับรัฐมนตรีภายใต้หัวข้อ “รำลึกครบรอบ 75ปีการก่อตั้งสหประชาชาติ  ผลักดันการปฏิบัติตามกฎบัตรของสหประชาชาติเพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ”และการประชุมภายใต้หัวข้อ “ความร่วมมือระหว่างสหประชาชาติกับองค์การต่างๆในภูมิภาคและอนุภูมิภาคในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศและบทบาทของอาเซียน”   ผ่านการประชุมดังกล่าว เวียดนามจะมีโอกาสยืนยันบทบาทของตนในการดำรงตำแหน่งประเทศสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและประธานอาเซียนในปี 2020  ซึ่งเป็นสองกลไกระดับภูมิภาคและโลกที่มีความหมายพิเศษต่อเวียดนาม.