การประชุมครบองค์ของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่51

(VOVWORLD) -เมื่อวันที่2สิงหาคม ได้มีการจัดการประชุมครบองค์และการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่51 โดยมีรัฐมนตรีต่างประเทศของ10ประเทศสมาชิกอาเซียนและเลขาธิการอาเซียนเข้าร่วม

การประชุมครบองค์ของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่51 - ảnh 1ภาพของการประชุม 

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม ฝามบิ่งมิงได้ชื่นชมการพัฒนาความร่วมมือภายในอาเซียนและระหว่างอาเซียนกับหุ้นส่วนต่างๆ ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อน รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เสนอให้อาเซียนต้องเน้นผลักดันความร่วมมือภายในกลุ่ม โดยต้องมีมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อสนับสนุนการค้าและการลงทุนภายในกลุ่มผสานกับการผลักดันความร่วมมือเพื่อลดช่องว่างการพัฒนาและการเชื่อมโยง

สำหรับปัญหาสันติภาพและความมั่นคง รองนายกรัฐมนตรี ฝามบิ่งมิงได้เสนอให้อาเซียนต้องส่งเสริมความสามัคคีและบทบาทการเป็นศูนย์กลางและยกระดับทักษะความสามารถในการรับมือกับความท้าทายต่างๆ

ส่วนสำหรับปัญหาทะเลตะวันออก รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้แสดงความวิตกกังวลต่อปฏิบัติการทางทหารที่ส่งผลกระทบต่อสันติภาพ ความมั่นคงในภูมิภาคและความไว้วางใจระหว่างประเทศ  โดยเสนอให้ฝ่ายต่างๆต้องใช้ความอดกลั้น ไม่มีการกระทำที่ทำให้สถานการณ์ทวีความซับซ้อนมากขึ้น ปฏิบัติหลัการและคำมั่นที่ได้ลงนาม

ส่วนในการกล่าวปราศรัยในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับหุ่นส่วนและสนทนาหรือพีเอ็มซี +1 นอกรอบการประชุมเอเอ็มเอ็ม 51 ระหว่างบรรดาประเทศอาเซียนกับญี่ปุ่น จีน รัสเซียและนิวซีแลนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศทุกท่านได้สรุปผลความร่วมมือในปีที่ผ่านมาและหารือเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมในเวลาที่จะถึง โดยบรรดาประเทศหุ้นส่วนได้แสดงการสนับสนุนความพยายามสร้างสรรค์ประชาคม ผลักดันความเชื่อมโยง การลดช่องว่างการพัฒนาของอาเซียนและด้านที่อาเซียนจะให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในปี 2018 และเห็นพ้องขยายความร่วมมือในด้านใหม่ๆ เช่น การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ การค้าอิเล็กทรอนิกส์และเศรษฐกิจดิจิตอล

ในการกล่าวปราศรัยในการประชุม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม ฝ่ามบิ่งมิงห์ได้ยืนยันถึงการให้ความสำคัญและร่วมมือกับบรรดาประเทศอาเซียนในการขยายและกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือในหลายด้านและเอื้อประโยชน์ระหว่างกันของอาเซียนกับหุ้นส่วนญี่ปุ่น รัสเซีย จีนและนิวซีแลนด์ พร้อมทั้งเห็นด้วยว่า อาเซียนและบรรดาประเทศหุ้นส่วนต้องพยายามผลักดันการสนทนา ความร่วมมือและสร้างสรรค์ความไว้วางใจ จัดทำและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรฐานในการปฏิบัติต่อกันเพื่อยับยั้งการพิพาทและธำรงสันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค

ในโอกาสรับหน้าที่เป็นผู้ประสานงานความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามได้ยืนยันว่า จะพยายามกระชับความสัมพันธ์ที่ดีงามระหว่างสองฝ่ายเพื่อนำความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อาเซียน – ญี่ปุ่นขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่

โอกาสนี้ ได้มีการจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศแม่โขง – สาธารณรัฐเกาหลีครั้งที่ 8 โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องเกี่ยวกับการขยายความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยง ลดช่องว่างการพัฒนาและยกระดับทักษะความสามารถในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ยกระดับกลไกการทำงานและความสามารถในการจัดการประชุมระดับสูงแม่น้ำโขง – สาธารณรัฐเกาหลีครั้งแรกในปี 2019

ในการกล่าวปราศรัยในการประชุม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามได้เผยว่า ในเวลาข้างหน้า ทั้งสองฝ่ายต้องเน้นร่วมมือในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ป้องกันและแก้ไขภัยพิบัติจากแม่น้ำโขงอย่างมีประสิทธิภาพและทันการณ์ การบริหารจัดการแหล่งน้ำของแม่น้ำโขงและการขยายความร่วมมือกับคณะกรรมการแม่น้ำโขง โดยสาธารณรัฐเกาหลีสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง รวมทั้งประสบการณ์ในด้านต่างๆในสภาวการณ์แห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0

ในกรอบการประชุมเอเอ็มเอ็ม 51 ได้มีการจัดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน – ออสเตรเลียและอาเซียน – สหรัฐ โดยในการประชุมอาเซียน – ออสเตรเลีย ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำถึงแถลงการซิดนี่ย์และคำมั่นต่างๆที่ได้ร่วมกันอนุมัติ รวมทั้งการผลักดันความร่วมมือด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการพบปะในระดับประชาชน ส่วนในการประชุมอาเซียน – สหรัฐ ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันถึงความสำคัญของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และชื่นชมการพัฒนาและผลสำเร็จของความร่วมมือที่ได้บรรลุในด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมสังคม สหรัฐยังชื่นชมการที่อาเซียนและจีนเข้าร่วมการเจรจาเกี่ยวกับซีโอซีอย่างจริงจังบนพื้นฐานของกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 และยืนยันสนับสนุนการแก้ไขปัญหาในทะเลตะวันออกอย่างสันติตามกฎหมายสากล บทบาทสำคัญของเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก ให้ความเคารพอธิปไตยและไม่มีปฏิบัติการทางทหารในทะเลตะวันออก.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด