การเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรีเวียดนามกับประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี
(VOVWorld)-ในกรอบการเยือนสาธารณรัฐเกาหลีและเข้าร่วมการประชุมผู้นำในโอกาสฉลองครบรอบ๒๕ปีการสถาปนาความสัมพันธ์สนทนาระหว่างอาเซียนกับสาธารณรัฐเกาหลี วันที่๑๐ธันวาคม ณ เมืองปูซาน ท่าน เหงวียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้มีการเจรจากับนาง ปาร์กกึมเฮประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี
|
การเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรีเวียดนามกับประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี |
(VOVWorld)-
ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามที่ติดตามนายกรัฐมนตรีรายงานว่า ในกรอบการเยือนสาธารณรัฐเกาหลีและเข้าร่วมการประชุมผู้นำในโอกาสฉลองครบรอบ๒๕ปีการสถาปนาความสัมพันธ์สนทนาระหว่างอาเซียนกับสาธารณรัฐเกาหลี วันที่๑๐ธันวาคม ณ เมืองปูซาน ท่าน เหงวียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้มีการเจรจากับนาง ปาร์กกึมเฮประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยมิตรไมตรี เปิดเผย น่าเชื่อถือและมีความเข้าใจระหว่างกัน ผู้นำทั้งสองท่านได้หารือและเห็นพ้องเกี่ยวกับแนวทางและมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศให้เข้าสู่ส่วนลึกยิ่งขึ้น พร้อมทั้ง แสดงความยินดีและชื่นชมการพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ หลังจากที่ทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์เมื่อปี๒๐๐๙ ผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องกันว่า การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์และความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างสองประเทศในเวลาที่ผ่านมาเป็นพื้นฐานที่สำคัญเพื่อขยายและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเพื่อมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาของแต่ละประเทศ การรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ธำรงการเยือนระดับสูง ขยายความร่วมมือระหว่างกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ปฏิบัติกลไกการสนทนาอย่างมีประสิทธิภาพ ผลักดันความร่วมมือด้านการทูต กลาโหมและความมั่นคง อุตสาหกรรมทางทหาร การฝึกอบรม การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและการก่อการร้าย ผู้นำทั้งสองท่านยังแสดงความยินดีต่อการที่ทั้งสองประเทศเสร็จสิ้นการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคีหรือเอฟทีเอ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ พร้อมทั้ง เห็นพ้องกันว่า ข้อตกลงนี้ไม่เพียงแต่มีความหมายสำคัญต่อการผลักดันความร่วมมือการค้าทวิภาคีเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายคือ มูลค่าการค้าต่างตอบแทนจะอยู่ที่๗หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี๒๐๒๐เท่านั้น หากยังมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศให้ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ ประธานาธิบดี ปาร์กกึมเฮได้ยืนยันว่า สาธารณรัฐเกาหลีถือเวียดนามเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ชั้นนำในนโยบายให้เงินช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาหรือโอดีเอและให้สิทธิพิเศษต่อโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน การขยายตัวแห่งสีเขียวและการพัฒนาแหล่งบุคลากร ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า การรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัยในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออกเป็นผลประโยชน์ร่วมของประเทศต่างๆในภูมิภาคและโลก ให้การสนับสนุนอาเซียนและจีนปฏิบัติแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกันของฝ่ายต่างๆในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีและมุ่งสู่การร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับปัญหาในภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน
|
ผู้นำทั้งสองท่านเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงว่าด้วยการเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงเอฟทีเอทวิภาคี |
ภายหลังการเจรจา ท่าน เหงวียนเติ๊นหยุงและนาง ปาร์กกึมเฮได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงว่าด้วยการเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงเอฟทีเอระหว่างสองประเทศ ตามข้อกำหนดของข้อตกลงเอฟทีเอ สาธารณรัฐเกาหลีจะให้สิทธิพิเศษด้านภาษีศุลกากรถึงร้อยละ๙๖.๔๘ต่อสินค้าที่นำเข้าจากเวียดนามเช่น สินค้าการเกษตร สัตว์น้ำ เช่น กุ้ง ปลา ผลไม้ ผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูปและการผลิตเครื่องจักรกล นอกจากนี้ สาธารณรัฐเกาหลียังให้คำมั่นที่จะสร้างโอกาสใหม่ให้แก่การบริการและการลงทุนของเวียดนาม ส่วนเวียดนามจะให้สิทธิพิเศษด้านภาษีศุลกากรร้อยละ๙๓ต่อสินค้าที่นำเข้าจากสาธารณรัฐเกาหลี เช่น วัตถุดิบด้านสิ่งทอ วัตถุดิบด้านพลาสติก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รถบรรทุก รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังพิธีลงนาม ผู้นำทั้งสองท่านต่างเห็นว่า ข้อตกลงนี้จะนำผลประโยชน์อย่างจริงจังมาให้แก่ทั้งสองประเทศนับตั้งแต่ปี๒๐๑๕และมีส่วนร่วมพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ./.
แถ่งจุง-นักข่าวสถานีวิทยุเวียดนามที่ติดตามนายกรัฐมนตรี