นายห่ากิมหงอก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เวียดนาม (Photo Internet)

(VOVworld) – เมื่อคืนวันที่ 2 ธันวาคมตามเวลาเวียดนาม ท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามพร้อมคณะผู้แทนระดับสูงได้ออกจากกรุงบรัสเซลเดินทางกลับประเทศเวียดนามเสร็จสิ้นการเข้าร่วมการประชุมกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ COP-21 การเยือนประเทศเบลเยียมและสหภาพยุโรป ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับการเยือนดังกล่าวของท่านเหงียนเติ๊นหยุง นายห่ากิมหงอก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เผยว่า นี่เป็นการเยือนที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพอย่างจริงจัง โดยการทูตทางการเมืองมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการทูตทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ในด้านการเมือง การเยือนดังกล่าวเป็นก้าวเดินเพื่อขยายความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศส เบลเยียม สหประชาชาติ ยูเนสโกและอียู ซึ่งล้วนเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของเวียดนามทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ ความมั่นคงและวัฒนธรรม นอกจากนี้ เวียดนามยังขยายความสัมพันธ์กับ26 หุ้นส่วนใหญ่ที่มีความสำคัญและมีความสัมพันธ์กันมาช้านาน เช่น เยอรมนี อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ ฟินแลนด์ ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี บราซิล ชิลี คิวบา อินโดนีเซียและกัมพูชา การเข้าร่วมการประชุม COP-21 ของท่านเหงียนเติ๊นหยุงเป็นกิจกรรมทางการทูตที่สำคัญที่สุดในปี 2015 ซึ่งเป็นปีที่ประชาคมโลกได้จัดกิจกรรมสำคัญต่างๆเกี่ยวกับปัญหาความมั่นคง การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาอย่างยั่งยืน นายห่ากิมหงอกยังเผยว่า ประธานธนาคารโลกและผู้อำนวยการกองทุนสิ่งแวดล้อมโลกได้ให้คำมั่นว่า จะสนับสนุนเวียดนามในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ส่วนเบลเยียมได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนเวียดนามในโครงการปลูกป่า โดยเฉพาะการลงนามเอกสารอย่างเป็นทางการเพื่อเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม – อียูหรือEVFTA การเยือนอียูของนายกรัฐมนตรีเหงียนเติ๊นหยุงถือเป็นการเปิดโอกาสความร่วมมือใหม่ในด้านการค้าและการลงทุนต่อสถานประกอบการและประชาชนของทั้งสองฝ่าย.