นายเหงวียนวันนาม ประธานกรรมการสภาบริหารสถาบันวิจัยยุทธศาสตร์เครื่องหมายการค้าและการแข่งขันกล่าวว่า เพื่อใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของข้อตกลงนี้สถานประกอบการต่างๆจะต้องปรับเปลี่ยนจิดสำนึกในการบริหารธุรกิจ “ตามการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับโอกาสมากที่สุดจาก11สมาชิกของข้อตกลง แต่ควบคู่กันนั้นก็ต้องรับมือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ ทั้งด้านกลไก นโยบาย ระดับการพัฒนา เป็นต้น ดังนั้นต้องมีก้าวพัฒนาใหม่และนอกจากความพยายามของรัฐบาล สถานประกอบการก็ต้องพยายามปฏิบัติเพื่อที่จะสามารถใช้โอกาสได้ดี ซึ่งข้อตกลงนี้กำลังจะมีผลบังคับใช้ดังนั้นเราต้องมุ่งมั่นปฏิบัติอย่างเข้มแข็งทันที”

ส่วนศ.ดิงห์หงอกถิง จากสถาบันการเงินเวียดนามแสดงความเห็นว่า สถานประกอบการเวียดนามต้องผลักดันการลงทุนวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและประยุกต์ใช้ในการผลิตเพื่อเพิ่มผลิตภาพและฝ่าฟันอุปสรรคในการแข่งขัน “เมื่อเข้าร่วมซีพีทีพีพี เรามีโอกาสมากมายสำหรับลงทุน โดยเฉพาะในด้านภาษีที่อาจจะอยู่ที่0% ดังนั้นการแสวงหาแหล่งวัตถุดิบ ลงทุนพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีใหม่เพื่อเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพสพหรับผู้ประกอบการเวียดนามจะเป็นเรื่องที่ได้รับการเปิดกว้างมากขึ้น”

บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการสัมมนาได้กล่าวว่า ซีพีทีพีพี ได้สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่เวียดนามในกระบวนการผสมผสานเปิดตลาด พัฒนาการลงทุนและเปิดการค้าเสรีกับหลายประเทศในทั่วโลกมากขึ้น.