จัดการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน–อียูครั้งที่ 21

(VOVworld) – เช้าวันที่ 14 ตุลาคม ได้มีการเปิดการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน-อียู หรือ AEMM ครั้งที่ 21 อย่างเป็นทางการ ณ กรุงเทพ ภายใต้หัวข้อ “มุ่งสู่การเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์”

จัดการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน–อียูครั้งที่ 21  - ảnh 1
จัดการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน–อียูครั้งที่ 21

(VOVworld) – เช้าวันที่ 14 ตุลาคม ได้มีการเปิดการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน-อียู หรือ AEMM ครั้งที่ 21 อย่างเป็นทางการ ณ กรุงเทพ ภายใต้หัวข้อ “มุ่งสู่การเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์” ก่อนหน้านี้ เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่การประชุม AEMM การประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงอาเซียน-อียู หรือ SOM ได้มีขึ้นเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ณ กรุงเทพ โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยและนาง เฟเดริกา โมเกรินี รองประธานอียูและผู้แทนระดับสูงด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคงแห่งสหภาพยุโรปเป็นประธาน และมีเลขาธิการอาเซียน เลเลืองมินห์ พร้อมคณะผู้แทนเกือบ 40 คณะจากประเทศสมาชิกอาเซียนและอียู รวมทั้งคณะผู้แทนเวียดนามนำโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เหงวียนก๊วกหยุง เข้าร่วมการประชุม

ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ยกย่องบทบาทสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับอียู อีกทั้งแสดงความประสงค์ที่จะยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่และกระชับความร่วมมือในหลายด้านให้ใกล้ชิดมากขึ้น โดยทั้งสองฝ่ายจะพยายามมุ่งสู่การยกระดับความสัมพันธ์อาเซียน-อียูให้เป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ผ่าน “ปฏิญญากรุงเทพว่าด้วยการผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนระดับโลกอาเซียน-อียูเพื่อผลประโยชน์ร่วมเชิงยุทธศาสตร์” รวมทั้งการวางแนวทาง ขอบเขต และมาตรการขยายความร่วมมือในด้านสำคัญต่างๆ ส่วนในด้านการเมืองและความมั่นคง จะร่วมมือเพื่อธำรงสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ความปลอดภัยในการเดินเรือ ผลักดันการปฏิบัติตามกฎหมายสากล รับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ ในด้านเศรษฐกิจ จะเริ่มการเจรจาเกี่ยวกับการจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน-อียู ผลักดันการเชื่อมโยงทางอากาศและทางทะเล พร้อมทั้งพัฒนาสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ในด้านวัฒนธรรมและสังคม จะผลักดันการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน การท่องเที่ยว ความร่วมมือด้านการศึกษาและฝึกอบรม รวมทั้งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นอกจากนี้ บรรดารัฐมนตรียังสงวนเวลาเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ของภูมิภาคและโลกที่ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสนใจ ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เหงวียนก๊วกหยุง ได้ย้ำว่า ถึงเวลาที่จะต้องพัฒนาความสัมพันธ์คู่เจรจาอาเซียน-อียูขึ้นเป็นระดับหุ้นส่วนยุทธศาสตร์และให้ความสำคัญต่อการขยายควมร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า ความเชื่อมโยง รวมทั้งการรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคงในภูมิภาค

สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก นาย เหงวียนก๊วกหยุง ได้แสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ที่ซับซ้อนในปัจจุบัน และยืนยันถึงทัศนะร่วมของอาเซียน พร้อมทั้งชื่นชมทัศนะของอียู โดยเรียกร้องให้อียูสนับสนุนความพยายามธำรงสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลตะวันออก ผลักดันการแก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธีตามกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฏหมายทางทะเลปี 1982 ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้ความรุนแรงและปฏิบัติตามแถลงการณ์เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีและบรรลุระเบียบการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีโดยเร็ว. 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด