พลเมืองอย่างน้อยใน 50 ประเทศและดินแดนถูกขอความร่วมมือให้อยู่แต่ในที่พัก และอย่างน้อย 44 ประเทศ เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี อังกฤษ อาร์เจนตินาและอิรักได้ประกาศคำสั่งปิดเมืองและมีอย่างน้อย 10 ประเทศและดินแดนที่ประกาศเคอร์ฟิว

ในภูมิภาคเอเชีย วันที่ 24 มีนาคม เมียนมาร์ได้แจ้งว่า พบผู้ติดเชื้อรายแรก ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศออสเตรเลียอยู่ที่ราว 1,717 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 7 ราย

อิหร่านมีผู้เสียชีวิตอีก 127 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1,812 รายและมีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 23,000 ราย

อิตาลีปพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบ 4,800 ราย ลดลงเมื่อเทียบกับตัวเลขในวันก่อน ส่วนยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่เกือบ 64,000 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตกว่า 6,000 ราย

ในขณะเดียวกัน ได้มีเจ้าหน้าที่ของรัฐสภายุโรปหรืออีพีรายแรกเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัส SARS – CoV- 2 นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งของอีซี สภายุโรปและอีพีได้ติดเชื้อไวรัส SARS – CoV- 2 รวมทั้งนาย Michel Barnier หัวหน้าคณะเจรจา Brexit ที่กำลังถูกกักตัวในฝรั่งเศส

ที่ประเทศฝรั่งเศส มีผู้เสียชีวิต 860 รายและผู้ติดเชื้อสะสม 19,856 ราย ที่สหรัฐมีผู้เสียชีวิต 552 รายและผู้ติดเชื้อกว่า 43,700 ราย

ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สาธารณรณรัฐเช็ก แกมเบีย ไนจีเรีย ซิมบับเวและมอนเตเนโกรมีผู้เสียชีวิตรายแรก ในขณะที่ปาปัวนิวกินีและซีเรียพบผู้ติดเชื้อรายแรก

ในขณะเดียวกัน ที่ประเทศจีน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 ราย ซึ่งมีหนึ่งรายเป็นแพทย์ที่ทำงานในโรงพยาบาลประชาชนอู่ฮั่น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ 4 วันไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเมืองอู่ฮั่น

วันที่ 23 มีนาคม ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้อนุมัติข้อเสนอของรัฐแคลิฟอร์เนียในการประกาศภาวะฉุกเฉินเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในวันเดียวกัน นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้เรียกร้องให้มีคำสั่งหยุดยิงทั่วโลกทันทีเพื่อปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์จากโรคโควิด -19 ในพื้นที่ที่เกิดสงคราม.