นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ (Photo: Yonhap)

นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนอให้จีนใช้ทุกกลไกเพื่อป้องกันปฏิบัติการที่ยั่วยุของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี พร้อมทั้งประกาศมาตรการควํ่าบาตรที่แข็งกร้าวมากขึ้นต่อเปียงยาง ส่วนนาย สีจิ้นผิง ได้ยืนยันว่า ปักกิ่งยืนหยัดกระบวนการปลอดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี ธำรงนโยบายระหว่างประเทศเกี่ยวกับการไม่เผยแพร่อาวุธนิวเคลียร์ รักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมทั้งยํ้าว่า จีนมีความประสงค์ที่จะธำรงช่องทางการติดต่อกับสหรัฐและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหานิวเคลียร์ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีผ่านการสนทนาและการเจรจา

ในวันเดียวกัน นาย ซิกมา กาเบรียล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีได้ประณามเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งยํ้าว่า จะเรียกตัวเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเข้าพบเพื่อประท้วงปฏิบัติการดังกล่าว

ส่วนในการเจรจาทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน นาย มูนแจอิล ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีและนาย ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้เห็นพ้องที่จะเรียกร้องให้สหประชาชาติเพิ่มมาตรการควํ่าบาตรต่อสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี พร้อมทั้งยํ้าว่า ปฏิบัติการที่ยั่วยุของเปียงยางเป็นสิ่งที่ไม่สามารถให้อภัยได้

ส่วนรัฐบาลรัสเซียก็ได้ประณามการทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีปของเปียงยางเช่นกัน ซึ่งถือเป็นปฏิบัติการที่ยั่วยุ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้ความอดกลั้นเพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีเลวร้ายลง

ส่วนกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษได้เผยว่า ได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีเข้าพบเพื่อประท้วงปฏิบัติการดังกล่าว ส่วนสหประชาชาติได้จัดการประชุมฉุกเฉินในวันเดียวกันเกี่ยวกับการทดลองยิงขีปนาวุธของเปียงยาง โดยนาง Nikki Haley เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติได้เรียกร้องให้สหประชาชาติเพิ่มมาตรการควํ่าบาตรสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีและเร่งรัดให้ประเทศต่างๆตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับเปียงยาง.