นายกรัฐมนตรีฝามมิงชิ้งห์ย้ำ ต้องผลักดันการสนทนา ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการรักษาบรรยากาศแห่งสันติภาพเพื่อการพัฒนา

(VOVWORLD) -เมื่อค่ำวันที่ 27 ตุลาคม นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งห์ ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (EAS) ครั้งที่ 16 พร้อมด้วยผู้นำของประเทศอาเซียนและประเทศหุ้นส่วนคือ จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย รัสเซีย สหรัฐและเลขาธิการอาเซียน

นายกรัฐมนตรีฝามมิงชิ้งห์ย้ำ ต้องผลักดันการสนทนา ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการรักษาบรรยากาศแห่งสันติภาพเพื่อการพัฒนา - ảnh 1นายกรัฐมนตรีฝามมิงชิ้งห์เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (EAS)

กล่าวในที่ประชุม นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เน้นว่า การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกควรส่งเสริมบทบาทและคุณค่าทางยุทธศาสตร์อย่างต่อเนื่องในการส่งเสริมความประพฤติที่โปร่งใส การเจรจาอย่างตรงไปตรงมา และสร้างความไว้วางใจ ช่วยประสานความแตกต่าง ส่งเสริมการแบ่งปันความรับผิดชอบ มีส่วนร่วม รักษาบรรยากาศแห่งสันติภาพ เสถียรภาพและร่วมมือเพื่อการพัฒนาร่วมกันในภูมิภาคและโลก นายกรัฐมนตรีฝามมิงชิ้งห์เสนอให้ประเทศต่างๆร่วมมือกันจัดการการเปลี่ยนแปลงอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมความร่วมมือพหุภาคี ประสานด้านนโยบาย และปฏิบัติการเพื่อรับมือความท้าทายที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันความเสี่ยงจากความไร้เสถียรภาพและส่งเสริมการพัฒนา การฟื้นฟูที่ยั่งยืนโดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจและสังคมหลังภาวะการระบาดใหญ่ โดยบรรดาประเทศหุ้นส่วนของอีเอเอสซึ่งมีระบบสาธารณสุขที่ทันสมัยควรส่งเสริมความร่วมมือในการยกระดับขีดความสามารถด้านสาธารณสุข อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงวัคซีนและยารักษาโควิด-19อย่างทันเวลา สร้างกลไกในการแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ การปรับปรุงเพิ่มขีดความสามารถในการเตือนภัยล่วงหน้า ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ยืนยันการสนับสนุนความมุ่งมั่นระหว่างประเทศในการสร้างกลไกมาตรการด้านสาธารณสุขเพื่อต่อสู้กับโรคระบาดทั่วโลก

ในการย้ำถึงความพยายามเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยมีประชาชนและภาคธุรกิจเป็นศูนย์กลางและปัจจัยหลักนายกรัฐมนตรีฝามมิงชิ้งห์ได้เสนอให้อาเซียนและประเทศหุ้นส่วนประสานความร่วมมือเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและขยายตลาดซึ่งกันและกัน การส่งออกและถ่ายทอดเทคโนโลยีดิจิทัลและเทคโนโลยีสีเขียว ฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพสูง ส่งเสริมการฟื้นตัวอย่างเท่าเทียม ยั่งยืน และครอบคลุมในภูมิภาค มีส่วนร่วมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบดิจิทัล เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจแบบคลอบคลุม

ในการนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามยังย้ำว่าการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค การประกันความมั่นคง ความปลอดภัย และเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออกนั้นถือเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน และต้องการความร่วมมือกันของทุกประเทศ เรียกร้องให้มีความพยายามในการปฏิบัติตาม DOC อย่างวมบูรณ์ ส่งเสริมการเจรจาเพื่อจัดทำ COC ที่มีผลบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเลปี1982 และกรอบการดำเนินการกิจกรรมในทะเลและมหาสมุทร.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด