ประธานสภาแห่งชาติระบุถึงแนวทางส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับไทย

(VOVWORLD) - ในกรอบการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 7-10 ธันวาคม เช้าวันที่ 8 ธันวาคม ณ กรุงเทพฯ ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะได้กล่าวปราศัยต่อหน้านักวิชาการ ครูอาจารย์และนักศึกษากว่า 300 คน  ที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
ประธานสภาแห่งชาติระบุถึงแนวทางส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับไทย - ảnh 1ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ ได้กล่าวปราศัยต่อหน้านักวิชาการ ครูอาจารย์และนักศึกษากว่า 300 คน  ที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะได้ย้ำว่า การรักษาสันติภาพ การป้องกันสงครามและการปะทะคือความต้องการที่เร่งด่วนในปัจจุบัน โดยสันติภาพและเสถียรภาพคือพื้นฐานให้แก่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเวียดนาม ไทยและประเทศสมาชิกอาเซียนควรแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ เชิดชูการสนทนา ความร่วมมือ มาตรการสันติภาพ ให้ความเคารพกฎหมายสากล เสริมสร้างบทบาทการเป็นศูนย์กลางและการเชื่อมโยงของอาเซียน

สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับไทย ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะได้ยืนยันว่า  เวียดนามให้ความสำคัญและมีความประสงค์ที่จะขยายการเชื่อมโยง ความไว้วางใจและความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ ซึ่งเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์นี้ ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะได้เสนอให้ขยายความไว้วางใจทางการเมือง ความร่วมมือด้านความมั่นคง กลาโหม ความร่วมมือในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นช่องทางพรรค รัฐ รัฐสภาและความสัมพันธ์ระดับประชาชน นำความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเข้าสู่ระยะการพัฒนาใหม่บนเจตนารมณ์ “ความไว้วางใจ ความรับผิดชอบ จริงใจ ความร่วมมือแบบ Win-Win” ขยายความเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจอย่างกว้างลึก ปฏิบัติยุทธศาสตร์ “three connect”อย่างมีประสิทธิภาพ พยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 2 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ผลักดันความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรม การศึกษา การพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน การเชื่อมโยงกิจกรรมการท่องเที่ยว “2ประเทศ  1 จุดหมายปลายทาง”  ขยายการประสานงานในกรอบความร่วมมือพหุภาคีและเผยว่า

“ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์โลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อนและยากที่จะคาดเดาได้ ทั้งสองประเทศต่างเป็นสมาชิกที่สำคัญและมีความรับผิดชอบของอาเซียน ซึ่งถึงเวลาแล้วที่จะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ โดยสิ่งที่สำคัญคือความตั้งใจของรัฐบาลและประชาชนทั้งสองประเทศในการปฏิบัติวิสัยทัศน์และความคาดหวังเพื่อนำผลประโยชน์และความเจริญรุ่งเรืองมาสู่อาเซียนและประชาชนทั้งสองประเทศ”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด