ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน เดินทางถึงกรุงฮานอยเริ่มต้นการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ

(VOVWORLD) -วันที่10 กันยายน ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน ได้เดินทางถึงกรุงฮานอยเริ่มการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 10-11 กันยายน ตามคำเชิญของเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เหงวียนฟู้จ๋อง
ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน เดินทางถึงกรุงฮานอยเริ่มต้นการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ - ảnh 1ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน ได้เดินทางถึงกรุงฮานอยเริ่มการเยือนเวียดนาม

ต้อนรับประธานาธิบดีสหรัฐที่สนามบินมีนายเลหว่ายจูง หัวหน้าสำนักงานการต่างประเทศส่วนกลาง นาย ห่ากิมหวอก รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศ เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสหรัฐพร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานต่างๆของเวียดนาม ส่วนฝ่ายสหรัฐมีเอกอัครราชทูต Marc E. Knapperและคณะเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐ ณ กรุวฮานอย

สำหรับคณะผู้แทนสหรัฐที่เดินทางมาเวียดนามครั้งนี้มีรัฐมนตรีต่างประเทศ Antony Blinken ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ Jake Sullivan ทูตพิเศษด้านการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ John Kerry ผู้ช่วยประธานาธิบดีและรองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ  John Finer 
การเยือนเใยดนามครั้งนี้ถือเป็นการเยือนครั้งสำคัญที่มีขึ้นในโอกาสที่เวียดนามและสหรัฐรำลึกครบรอบ 10 ปีของการสถาปนาความเป็นหุ้นส่วนในทุกด้านและนับเป็นครั้งแรกที่ทั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีของสหรัฐได้เยือนเวียดนามในวาระเดียว 
ภายหลังการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตมา 28 ปี และ 10 ปีความเป็นหุ้นส่วนในทุกด้าน ความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐได้มีก้าวพัฒนาอย่างกว้างลึก จริงจัง เป็นรูปธรรมและครอบคลุมในทุกด้านที่มีความสำคัญและในทั้งสามระดับคือทวิภาคี ภูมิภาค และระหว่างประเทศ มีส่วนร่วมที่เข้มแข็งต่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาคและโลก ความสำเร็จที่ดีของความสัมพันธ์ทวิภาคีในช่วงเกือบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมาเป็นพื้นฐานสำหรับการยืนยันว่าการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะยังคงเป็นนิมิตหมายที่สำคัญและมีความหมายในกระบวนการพัฒนาร่วมกันเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาคและโลกของทั้งสองประเทศ
ในการให้สัมภาษณ์กับนักข่าวของสถานีวิทยุเวียดนามประจำสหรัฐเกี่ยวกับการเยือนครั้งนี้ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ชัค ฮาเกล กล่าวว่า การเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีโจ ไบเดนมีความสำคัญมาก โดยวิธีการที่ประเทศต่างๆ พัฒนาความสัมพันธ์และความไว้วางใจซึ่งกันและกันคือการที่ผู้นำของประเทศนั้นๆได้มีการพบปะหารือระหว่างกันและเยือนซึ่งกันและกัน ดังนั้นการเยือนเวียดนามครั้งนี้ของประธานาธิบดีสหรัฐเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะแสดงให้เห็นว่าผู้นำสหรัฐต้องการเห็นความสัมพันธ์นี้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นและต้องการทำความเข้าใจกับคนเวียดนามมากขึ้น รวมถึงด้านที่ทั้งสองประเทศสามารถร่วมมือกันได้
ในขณะเดียวกัน นักวิจัยและนักวิชาการชาวอเมริกันเชื่อว่าในช่วงที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศได้รับการเสริมสร้างให้แข็งแกร่งขึ้นไม่เพียงแค่ในเสาหลักเดียวเท่านั้น หากรวมถึงทุกเสาหลักและในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีโอกาสมากขึ้นในการกระชับความร่วมมือระหว่างเวียดนามและสหรัฐ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด