นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้พบปะกับนาย วิน มยินประธานาธิบดีเมียนมาร์ (VGP)

ทั้ง 2 ฝ่ายได้แสดงความพอใจต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีในด้านต่างๆ โดยเฉพาะหลังการยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือในทุกด้านเมื่อปี 2017 พร้อมทั้งให้คำมั่นว่า จะกระชับความร่วมมือด้านการค้าเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายมูลค่าการค้าต่างตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ประธานาธิบดีเมียนมาร์ชื่นชมโครงการลงทุนของเวียดนามในเมียนมาร์ที่มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อกระบวนการพัฒนาประเทศเมียนมาร์อย่างยั่งยืน ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมียนมาร์และเห็นพ้องที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนเวียดนาม

ส่วนนายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกได้เสนอให้เมียนมาร์ส่งเสริมโครงการร่วมมือด้านการเกษตรและสัตว์น้ำระหว่าง 2 ประเทศ อำนวยความสะดวกในการมอบที่ดินให้แก่โครงการปลูกพืชอุตสาหกรรมของเวียดนามในเมียนมาร์ ส่งเสริมโครงการเชื่อมโยงทางบกและการขนส่งริมฝั่งทะเล โดยก่อนอื่นต้องทำการสำรวจเส้นทางที่เชื่อมโยงเมียนมาร์กับเวียดนามและลาว

ผู้นำทั้ง 2 ประเทศเห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือในฟอรั่มพหุภาคีและอนุภูมิภาค ประธานาธิบดีเมียนมาร์ยืนยันว่า จะสนับสนุนและร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับเวียดนามในการปฏิบัติหน้าที่ประธานหมุนเวียนอาเซียนในปี 2020 ทั้ง 2 ฝ่ายย้ำถึงความสำคัญของการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค การเดินเรือและการบินอย่างเสรีในทะเลตะวันออก การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการพิพาทบนพื้นฐานให้ความเคารพกฎหมายสากล อนุสันญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ไม่ใช้ หรือ ข่มขู่ที่จะใช้กำลัง ให้คำมั่นปฏิบัติดีโอซีอย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพและมุ่งสู่การบรรลุซีโอซีโดยเร็ว

ประธานสภาแห่งชาติเหงวียนถิกิมเงินได้พบปะกับนาย วิน มยินประธานาธิบดีเมียนมาร์ (quochoi.vn)

ในบ่ายวันเดียวกัน ประธานสภาแห่งชาติเหงวียนถิกิมเงินได้พบปะกับนาย วิน มยินประธานาธิบดีเมียนมาร์ โดยได้ย้ำว่า ปัจจุบัน เวียดนามเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับที่ 7 ในจำนวน 49 ประเทศที่ลงทุนในเมียนมาร์ โดยมีโครงการลงทุน 18 โครงการ รวมยอดเงินลงทุน 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าการค้าต่างตอบแทนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากกว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2010 ขึ้นเป็น 860 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2018 ส่วนประธานาธิบดีเมียนมาร์เผยว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เดินทางมาเยือนเวียดนามในฐานะประธานาธิบดีเมียนมาร์ เมียนมาร์สนับสนุนเวียดนามลงสมัครเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021.