นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะและประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวางได้เป็นประธานในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ได้เผยว่า ผู้นำทั้งสองประเทศได้หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีและปัญหาที่ประชาคมโลกต้องเผชิญ  ซึ่งญี่ปุ่นจะให้ความช่วยเหลือการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเวียดนาม โดยเน้นถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ยกระดับทักษะความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจและการฝึกอบรมแหล่งบุคลากร ผลักดันความร่วมมือในด้านที่มีผลประโยชน์ให้แก่ประชาชนเวียดนาม เช่น ความร่วมมือในกรอบความคิดริเริ่มสุขภาพเอเชีย การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการกีฬา รวมทั้ง การสอนภาษาญี่ปุ่น

ส่วนประธานประเทศ เจิ่นด่ายกวางได้เผยว่า ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องเกี่ยวกับแนวทางและมาตรการผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งถูกระบุในแถลงการณ์ร่วมระหว่างสองประเทศ   ปี2018จะเป็นปีที่สำคัญเพื่อเปิดระยะใหม่แห่งการพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย “ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมือผ่านการธำรงการพบปะระดับสูง ผลักดันความร่วมมือในด้านกลาโหม ความมั่นคงและการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชนในปี2018 ซึ่งสร้างพื้นฐานที่สำคัญให้แก่การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ”

สำหรับปัญหาในภูมิภาคและโลก ผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องเกี่ยวกับความสำคัญของการสร้างสรรค์มหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิกที่สันติภาพ เสถียรภาพและเปิดเผยบนพื้นฐานของการเคารพกฎหมายสากล ให้การสนับสนุนกันในการลงสมัครชิงตำแหน่งประเทศสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประสานงานอย่างใกล้ชิดในวาระที่เวียดนามดำรงตำแหน่งผู้ประสานงานความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคมปี2018

  ผู้นำทั้งสองประเทศยังยืนยันถึงความสำคัญในการรักษาสันติภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก ผลักดันการแก้ไขปัญหาการพิพาทอย่างสันติ ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้กำลังและหลีกเลี่ยงการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อความไว้วางใจและปฏิบัติตามกฎหมายสากลอย่างจริงจัง.