ฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนาม-สาธารณรัฐเกาหลี

(VOVWORLD) -บ่ายวันที่23มีนาคม ณ กรุงฮานอย ได้มีการจัดฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนาม-สาธารณรัฐเกาหลีในโอกาสการเยือนเวียดนามครั้งแรกของประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี มุนแจอิน 
ฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนาม-สาธารณรัฐเกาหลี - ảnh 1ท่าน เจิ่นด่ายกวาง ประธานประเทศเวียดนาม (Photo: baomoi) 

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม ท่าน เจิ่นด่ายกวาง ประธานประเทศเวียดนามได้ยืนยันว่า ปัจจุบัน สาธารณรัฐเกาหลีเป็นหุ้นส่วนลงทุนรายใหญ่ที่สุด เป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเพื่อการพัฒนาทวิภาคีและการท่องเที่ยวรายใหญ่อันดับ2และหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับ3ของเวียดนาม พร้อมทั้ง ชี้ชัดว่า เวียดนามมีความประสงค์ที่จะขยายความร่วมมือขึ้นกับสาธารณรัฐเกาหลีอย่างกว้างลึกในทุกด้านและมีประสิทธิภาพบนพื้นฐานของความช่วยเหลือกัน การใช้ประโยชน์จากศักยภาพและจุดแข็งของแต่ละประเทศ ส่งเสริมความร่วมมือกับสาธารณรัฐเกาหลีในด้านการแปรรูป อุตสาหกรรมการสนับสนุน เทคโนโลยีสารสนเทศและพลังงานหมุนเวียน เป็นต้น

ท่านประธานประเทศเวียดนามได้ย้ำว่าฟอรั่มนี้เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญและเป็นโอกาสเพื่อให้ชมรมสถานประกอบการทั้งสองประเทศทบทวนผลความร่วมมือที่ได้บรรลุในตลอด25ปีที่ผ่านมา แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์และโอกาสความร่วมมือในระยะใหม่ “อนาคตความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างสองประเทศขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ ความมุ่งมั่นก้าวรุดหน้าไป ความคล่องตัวและความคิดสร้างสรรค์ของสถานประกอบการทั้งสองประเทศ พวกเรามีความประสงค์ว่า ชมรมสถานประกอบการทั้งสองประเทศจะแลกเปลี่ยนข้อคิดริเริ่มใหม่ มาตรการที่มีความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมศักยภาพและจุดแข็งเพื่อกลายเป็นกองกำลังเดินหน้าในความร่วมมือและการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจ มีส่วนร่วมเสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศ รัฐและประชาชนเวียดนามถือความสำเร็จของสถานประกอบการสาธารณรัฐเกาหลีคือความสำเร็จของตน”

ส่วนประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีได้ประเมินว่า เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่คล่องตัว เป็นศูนย์เศรษฐกิจในอาเซียน โดยมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ6ต่อปี ปัจจุบัน เวียดนามเป็น1ใน4ประเทศหุ้นส่วนรายใหญ่ของสาธารณรัฐเกาหลีและสาธารณรัฐเกาหลีเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ในตลอด25ปีที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้กลายเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของกัน ทั้งสองประเทศได้ตั้งเป้าไว้ว่า จนถึงปี2020 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศจะอยู่ที่1แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ.


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด